กษิดิศ ตี 8 อันเดอร์ นำรอบแรกไทยแลนด์โอเพ่นที่ริเวอร์เดลฯ

กษิดิศ เล็บครุฑ ขึ้นนำเดี่ยวทำ 8 อันเดอร์พาร์ 63 จบรอบแรก “ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 53” ชิงถ้วยพระราชทาน ร.9 ณ สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ พาร์ 71 จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568

กษิดิศ เล็บครุฑ ขึ้นนำเดี่ยวหลังทำผลงานรอบแรกดีสุดในรอบสองปีด้วยการ 8 อันเดอร์พาร์ 63 จบรอบแรก “ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 53” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเงินรางวัลรวม 7 ล้านบาท สนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุน แข่งขันระหว่างวันที่ 4-7 ธันวาคม 2568 ณ สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,056 หลา พาร์ 71 จังหวัดปทุมธานี นับเป็นรายการปิดฤดูกาลของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2025 โดยผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 1,050,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568


กษิดิศ เล็บครุฑ ทำ 9 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ จบรอบแรก 8 อันเดอร์พาร์ 63 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานดีที่สุดในรอบ 2 ปี กล่าวว่า "เกมดีมากๆ ครับ เป็นรอบที่สุดในรอบสองปีที่ออกสตาร์ทแล้วขึ้นนำตั้งแต่รอบแรก ใน 9 หลุมนี้มีโอกาสทำเบอร์ดี้เกือบทุกหลุม ตี 6 อันเดอร์ 29 ถือว่าครั้งแรกในชีวิตที่ทำได้ด้วยครับ ขณะที่สภาพสนามกรีนเร็วกกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่าดีมากๆ รายการนี้ออกสตาร์ทดีก็ถือว่ามีโอกาสในการรักษาทัวร์การ์ดไปเล่นในปีหน้า"


อันดับสองเป็นของ “โปรจิ๋ว” กัมลาศ นาเมืองรักษ์ แชมป์ออลไทยแลนด์ 3 รายการที่หวดรอบนี้ 7 อันเดอร์ จาก 1 อีเกิ้ล 7 เบอร์ดี้ และ 1 ดับเบิ้ลโบกี้ ส่วน ธนภัทร พิชัยกุล ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ที่เชียงรายและกำลังลุ้นชัยชนะรายการที่ 3 ในฤดูกาลนี้ รั้งอันดับ 3 ร่วม ที่สกอร์ 6 อันเดอร์ เช่นเดียวกับ ภูพิรัฐ กลิ่นเกษร, สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์, กรวิชย์ เยี่ยมศิริ, ภัทรพล ขันทะชา และอาเมียร์ นาซริน โปรมาเลเซีย ที่รอบนี้ทำ 1 อีเกิ้ล และ 4 เบอร์ดี้ รายการนี้ซึ่งมีนักกอล์ฟร่วมชิงชัย 144 คน ชิงเงินรางวัลรวม 7 ล้านบาท เป็นแมตช์ที่ 14 และแมตช์ปิดฤดูกาลออลไทยแลนด์ฯ 2025 โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 1,050,000 บาท โดยหลังจบรอบสองจะตัดตัวที่ท็อป 60 และเสมอ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม