ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รัฐไฟเขียวปลดล็อคกีฬามีคนดู

ประกาศจาก สำนักงานประสานงานกลาง คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ที่มีถึงผู้ว่า กทม. ถึงการผ่อนปรนล่าสุุดของทาง ศบค. ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้มีการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชมได้

แฟนกีฬาเมืองไทยได้ข่าวดี หลังจากการประกาศล่าสุดของภาครัฐ ในการรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ล่าสุดว่า พร้อมไฟเขียวผ่อนปรนให้มีการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชมได้ ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.นี้เป็นต้นไป


ประกาศฉบับดังกล่าวโดย พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ได้ลงนามในหนังสือ ถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่องการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโรคโควิดเพิ่มเติม

โดยระบุว่า ตามที่สำนักงานประสานงานกลางได้จัดการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ เพื่อผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม และได้นำผลการประชุมรายงานให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา และเห็นชอบให้มีการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายสำหรับกิจกรรมที่ได้เปิดดำเนินการแล้วในห้วงเวลาที่ผ่านมาเพิ่มเติม ดังนี้ 1.ให้เปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ และสถาบันกวดวิชาแบบเต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องสลับวันเรียน 2.ให้มีการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม และ 3.ให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐานของพาหนะ ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย ว่า กรมการค้าภายในได้ปรับแนวทางและหลักเกณฑ์การบริหารหน้ากากอนามัยทางกาแรพทย์ใหม่ โดยกำหนดให้ผู้ผลิตสามารถจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ยังกำหนดให้ต้องปันส่วนขายให้กับรัฐ และต้องขายปลีกไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากสถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งจำนวนโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยมีเพิ่มขึ้นจาก 9 โรงงาน เป็น 20 โรงงาน ทำให้มีศักยภาพการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านชิ้นต่อวัน ส่วนการส่งออกนั้นแม้จะเปิดเสรีแล้วแต่ยังต้องขออนุญาตตามระเบียบกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เช่นเดิม


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง