3 สวิงระดับตำนานเสนอชื่อรับเหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี

(จากซ้าย) แบ๊บ ดิดริคสัน ซาฮาเรียส, แอนนิก้า โซเรนสตัม และ แกรี่ เพลเยอร์ เป็น 3 นักกอล์ฟที่จะได้รับ เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี หรือ เพรสซิเดนเทียล เมดัล ออฟ ฟรีดอม (Presidential Medal of Freedom) ซึ่งถือเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สหรัฐ
3 สุดยอดสวิงระดับตำนานอย่าง แอนนิก้า โซเรนสตัม, แบ๊บ ดิดริคสัน ซาฮาเรียส และ แกรี่ เพลเยอร์ ได้รับการเสนอชื่อให้รับ เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี หรือ เพรสซิเดนเทียล เมดัล ออฟ ฟรีดอม (Presidential Medal of Freedom) ซึ่งถือเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สหรัฐ ซึ่งทั้งหมดจะได้รับจากมือของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

เหรียญดังกล่าวเป็นการอธิบายถึงการมีส่วนสำคัญในสังคม และผลประโยชน์แห่งชาติของ สหรัฐ ที่แสดงออกถึงสันติภาพของโลก วัฒนธรรม และความพยายามต่างๆที่มีขึ้นต่อสังคม และส่วนตัว โดยปัจจุบันมีนักกอล์ฟเพียงแค่ 4 รายการเท่านั้นที่ได้รับเหรียญดังกล่าว (อาร์โนลด์ พาลเมอร์ 2004, แจ็ค นิคลอส 2005, ชาร์ลี่ ซิฟฟอร์ด 2014 และ ไทเกอร์ วู้ดส์ 2019) โดยเฉพาะ วู้ดส์ ที่เพิ่งจะรับเหรียญดังกล่าวจากมือของ ทรัมป์ หลังจากคว้าแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2019

เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาทาง ทำเนียบขาว ได้ประกาศว่า ทั้ง โซเรนสตัม และ เพลเยอร์ จะได้รับเกียรติดังกล่าว ก่อนที่จะมีการเพิ่มเติม แบ๊บ ดิดริคสัน ซาฮาเรียส อดีตตำนานสวิงสาวชาวสหรัฐ ที่จะได้ ดับบลิว.แอล. แพท จูเนียร์ ที่นั่งประธานมูลนิธิ แบ๊บ ดิดริคสัน ซาฮาเรียส ที่จะเข้ามารับเหรียญเชิดชูเกียรติดังกล่าวเพื่อเป็นเกียรติให้ ซาฮาเรียส ที่ถึงแก่กรรมไปตั้งแต่เมื่อปี 1956
โซเรนสตัม วัย 50 ปี นับเป็นหนึ่งในตำนานสวิงสาวที่สร้างชื่อเสียงในช่วงกลางทศวรรษ 1990 จนถึงกลางทศวรรษ 2000 ซึ่งเธอคว้าแชมป์ในระดับ แอลพีจีเอ ทัวร์ ทั้งสิ้น 72 รายการ รวมถึง 10 แชมป์ในระดับเมเจอร์ และได้รับตำแหน่งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีถึง 8 สมัย ก่อนที่จะอำลาชีวิตการเล่นกอล์ฟอาชีพในปี 2008 และยังคงทำงานเป็นเบื้องหลังให้กับวงการกอล์ฟสตรีอย่างต่อเนื่อง
ซาฮาเรียส เป็นหนึ่งในนักกีฬาหญิงที่ยอดเยี่ยม เธอเป็นเจ้าของเหรียญทองวิ่งข้ามรั้ว 80 เมตร และขว้างจักร ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1932 ก่อนที่จะหันเหเส้นทางการเล่นกีฬามาสู่ กอล์ฟ ในปี 1935 ตอนนั้นเธออายุ 24 ปี และกลายเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟหญิงที่มีผลงานยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับ โซเรนสตัม ที่เธอคว้าแชมป์ระดับ เมเจอร์ ถึง 10 สมัย และยังคว้าตำแหน่ง แกรนด์ สแลม (กวาดทุกแชมป์เมเจอร์ในปีนั้น) เมื่อปี 1950 ซึ่งระหว่างนั้นเธอกลายเป็นนักกอล์ฟหญิงคนเดียวที่สามารถลงแข่งขันกอล์ฟกับมืออาชีพชายอย่างในศึก พีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเธอเข้าร่วมการแข่งขัน 3 ครั้งด้วยกัน
ด้าน เพลเยอร์ เจ้าของฉายา "อัศวินสีดำ" ที่มักจะเห็นเขาสวมชุดสีดำทั้งชุดเสมอ และนับเป็นหนึ่งใน 3 สุดยอดนักกอล์ฟตลอดกาล "บิ๊กทรี" ซึ่งประกอบไปด้วย นิคลอส และ พัลเมอร์ โดยสวิงชาว แอฟริกาใต้ กลายเป็นหนึ่งใน 5 นักกอล์ฟที่คว้าแชมป์ แกรนด์ สแลม (ชนะทั้ง 4 รายการ เมเจอร์ภายในปีเดียว) และเป็นนักกอล์ฟที่ไม่ใช่ชาวอเมรกันคนเดียวที่ทำเช่นนี้ได้ด้วย ตลอดชีวิตของ เพลเยอร์ คว้าแชมป์มาแล้วทั่วโลกมากกว่า 160 รายการ ซึ่งรวมถึง 9 แชมป์ในระดับ เมเจอร์ และนับตั้งแต่อำลาการเล่นกอล์ฟอาชีพ ก็ยังคงเป็นต้นแบบให้กับบรรดาชนรุ่นหลังเสมอมา เขาได้ออกแบบสนามกอล์ฟทั่วโลกมากกว่า 400 สนาม และเป็นผู้ก่อตั้ง มูลนิธิ "เพลเยอร์ ฟาวน์เดชั่น" เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆมากมายด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้