ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ปักหมุดกอล์ฟหญิงไทยในแผนที่โลก

นักกอล์ฟสาวไทย

ถ้าพูดถึงกีฬาที่สามารถปักหมุดประเทศไทยบนแผนที่โลกได้อย่างภาคภูมิใจ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “กอล์ฟหญิง” ที่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นรายการไหนก็ต้องมีชื่อนักกอล์ฟไทยอยู่ด้านบนของลีดเดอร์บอร์ดเกือบทุกรายการ อย่างไรก็ตาม กว่าจะมีความภูมิใจในวันนี้ พวกเขาได้ก้าวผ่านทั้งอุปสรรคและความท้าทาย ทั้งในส่วนของนักกีฬาและผู้ให้การสนับสนุนซึ่งต้องเดินหน้าคู่กันไป

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เริ่มจัดการแข่งขันเมื่อปี 2006 ถือเป็นการแข่งขันสำคัญที่ช่วยปลุกกระแสวงการกอล์ฟ โดยเฉพาะกอล์ฟหญิงเมืองไทย ทั้งยังให้โอกาสนักกอล์ฟไทยในการแข่งขันเพื่อสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก โดยในปีแรกมีนักกอล์ฟไทยได้สิทธิ์ลงเล่นเพียง 4 คน ก่อนคว้าโอกาสเข้าร่วมแข่งขันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบางปีมีมากกว่า 10 คน

10 ปีหลังจากมีการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปี 2016 ประเทศไทยได้แชมป์แรกในแอลพีจีเอทัวร์ จากผลงานของ “เม-เอรียา จุฑานุกาล” และ 5 ปีหลังจากนั้นในปี 2021 เมก็กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ซึ่งนับถึงตอนนี้เธอถือเป็นนักกอล์ฟไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยจำนวน 12 แชมป์ (รวมถึง 2 แชมป์เมเจอร์)

ปัจจุบันประเทศไทยมีแชมป์แอลพีจีเอทัวร์แล้ว 22 รายการ (3 แชมป์เมเจอร์) จากจำนวน 7 นักกอล์ฟ ซึ่งทั้ง 7 คนนี้ต่างเคยเข้าร่วมการแข่งขันรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ มาแล้วทั้งสิ้น ในจำนวนดังกล่าว มีนักกอล์ฟไทยได้ขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกมาแล้วถึง 2 คน คือ “เม-เอรียา จุฑานุกาล” และ “จีน-อาฒยา ฐิติกุล” และที่สำคัญในปีนี้ ทีมนักกอล์ฟสาวไทย ได้แก่ “เม-เอรียา โม-โมรียา จุฑานุกาล” “จีน-อาฒยา ฐิติกุล” และ “แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ” ช่วยกันคว้าแชมป์ประเภททีมได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรายการ อินเตอร์เนชันแนล คราวน์ โดยเอาชนะทีมชั้นนำของโลกทั้งสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ผลงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าวงการกอล์ฟหญิงของไทยนั้นก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแถวหน้าของทัวร์อย่างแท้จริง

เรียกว่ารายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ มีส่วนช่วยปูทางสู่ความสำเร็จให้กับนักกอล์ฟไทย หลายคนเติบโดมาจากทัวร์นาเมนต์นี้จนสามารถก้าวสู่เส้นทางนักกอล์ฟอาชีพระดับโลกคว้าแชมป์ในหลายรายการ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีก่อนเข้าสู่แอลพีจีเอทัวร์ ซึ่งเป็นทัวร์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากนี้ รายการนี้ยังเปิดโอกาสในการแจ้งเกิดให้กับนักกอล์ฟดาวรุ่งคนใหม่ในทุกปี และมีนักกอล์ฟหลายคนที่ได้ประสบการณ์สำคัญจากการรับเชิญร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ จนในที่สุดสามารถก้าวสู่แชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์ได้สำเร็จ ดังเช่น “พราว-ชเนตตี วรรณแสน”

นอกเหนือจากความสำเร็จของนักกอล์ฟไทยแล้ว ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ยังเป็นรายการที่นักกอล์ฟต่างชาติหลายคนต่างเฝ้ารอ เพราะนอกจากเสน่ห์ของรายการและความน่าดึงดูดใจของประเทศไทยแล้ว การได้ร่วมชิงชัยในทัวร์นาเมนต์แรกๆ ของฤดูกาลเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญยิ่งในการปรับวงสวิงและสร้างความมั่นใจก่อนที่จะต้องสู้ศึกตลอดฤดูกาลที่ยาวนาน

ตลอดประวัติศาสตร์การแข่งขัน 16 ครั้งที่ผ่านมา ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ได้รับการต้อนรับจากแฟนกอล์ฟชาวไทยและชาวต่างชาติเนืองแน่นและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  มีผู้ชมในสนามมากถึง 46,879 คน และมีการถ่ายทอดสดไปยัง 543,972,227 ครัวเรือน และสำหรับการแข่งขันครั้งที่ 17 มีนักกอล์ฟระดับโลกจำนวน 72 คน ร่วมแข่งขันชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านเหรียญฯ โดยกำหนดจัดขึ้นวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี เชื่อว่าจะสนุกสนานและสร้างความประทับใจให้กับแฟนกอล์ฟมากกว่าเดิมแน่นอน

เตรียมล็อควันว่างล่วงหน้า... อีกแค่ 3 เดือน หนึ่งในรายการกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ที่ยาวนานที่สุดของเอเชียก็จะมาถึง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง