สุดปลื้ม อาฒยา เพลย์ออฟแชมป์ วอลมาร์ทฯ รับ 12.9 ล้านบาท แชมป์ที่ 2 จ่อซิวรุคกี้แห่งปี

โปรจีน อาฒยา กับถ้วยแชมป์ วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ

"โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล โปรสาววัย 19 ปี จากจังหวัดราชบุรี ยอมรับปลื้มทำแชมป์ที่สองในการเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ สำเร็จ หลังพัตต์เบอร์ดี้จากระยะ 8 ฟุต เฉือนชนะ เดเนียล คัง โปรสาวชาวอเมริกัน ในการดวล โฮลบายโฮล เพลย์ออฟ ที่หลุมที่สอง คว้าแชมป์ วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 86.6 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2565 หลังจบสามวันทำสกอร์เสมอกันที่ 17 อันเดอร์พาร์ 196 คว้าเงินรางวัลไป 345,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12,992,700 บาท และยังนำอันดับหนึ่งคะแนนสะสมรุกกี้แห่งปี

การแข่งรอบสุดท้ายมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน หรือช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 26 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย อาฒยา ทำสกอร์เพิ่มเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จากผลงาน 4 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ รวมสามวันสกอร์มาเท่ากับ เดเนียล คัง ที่ทำอีเกิ้ลที่หลุม 18 รอบสุดท้ายทำเพิ่มเข้ามาอีก 7 อันเดอร์พาร์ 64 ก่อนจบด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 196 ต้องมาดวลเพลย์ออฟตัดสินแชมป์ โดย อาฒยา เผยให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บนหลุม 18 ของตัวเองว่า "ตอนนั้นไม่ได้ดูลีดเดอร์บอร์ด และคิดว่าแค่พาร์ก็น่าจะเพียงพอแล้ว"

เพลย์ออฟมีที่หลุม 15 พาร์ 3, 16 พาร์ 4 และ 17 พาร์ 3 เริ่มดวลในหลุม 15 เสมอกันด้วยพาร์ ก่อนหลุม 16 ที่เป็นหลุมยากที่สุดของสนาม จีน วางตัวอยู่กลางแฟร์เวย์ ขณะที่ คัง หวดตกที่เฟิร์ตคัตด้านขวา ก่อนชอตสอง คัง จะตีหลุดกรีนตกขอบฟรินซ์ ขณะที่ จีน ตีเข้ามาเหลือระยะ 8 ฟุต สวิงสาวจากอเมริกันพัตต์เบอร์ดี้ไม่ลง เปิดโอกาสให้ จีน ทำแชมเปี้ยนชิพพัตต์ ซึ่งสาวไทยไม่พลาดเคาะลูกลงหลุมเป็นชัยชนะที่สองใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้สำเร็จ หลังคว้าแชมป์แรกในรายการ เจทีบีซี คลาสสิค พรีเซนเตด บาย บาร์บาซอล เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

สวิงสาวจากราชบุรี กล่าวถึงการดวลเพลย์ออฟที่หลุมที่สองว่า "ตอนนั้นมีโอกาสทำเบอร์ดี้เพื่อคว้าชัยชนะ ซึ่งอยู่ในระยะที่ทำได้ ก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า "เราทำได้ และพยายามทำให้ดีที่สุด" ก่อนพัตต์ทำเบอร์ดี้สำเร็จ ดีใจที่คว้าชัยชนะได้ เพราะ คัง เป็นนักกอล์ฟที่ดีมากๆ อีกทั้งเป็นแชมป์ที่สองใน แอลพีจีเอ ซึ่งพิสูจน์ว่าตัวเองก็ทำได้เช่นกัน"

ด้าน คัง สวิงสาวที่เพิ่งกลับมาลงแข่งขันอีกครั้ง หลังจากหายจากผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บที่หลัง และทำเข้ามาถึง 7 อันเดอร์พาร์ 64 ในรอบสุดท้ายกล่าวถึงการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ว่า "มันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่มากมาย รู้สึกภูมิใจกับตัวเองที่ทำได้มาถึงตรงจุดนี้ได้ จริงๆอยากจะคว้าชนะ แต่ที่ร้องไห้ออกมาเพราะมันเป็นความสุขที่ได้กลับมาเล่นกอล์ฟได้ดีอีกครั้ง"

แชมป์นี้ทำให้ จีน รับเงินรางวัลไป 345,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12,992,700 บาท ทำเงินรางวัลรวมปีนี้ 1,881,392 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 71,003,734 บาท อยู่ในอันดับ 6 ของทัวร์จาการเล่น 21 รายการ และยังคงนำอันดับหนึ่งคะแนนสะสมรุกกี้แห่งปี ด้วยคะแนน 1,299 คะแนน ทำสถิติเป็นแชมป์รายการที่ 20 ที่โปรสาวไทยทั้งหมดทำได้ใน แอลพีจีเอ ทัวร์ อีกด้วย รวมถึงเป็นรุคกี้คนแรกในรอบ 5 ปี หลังจากเมื่อปี 2017 ที่ ปาร์ค ซัง ฮยุน ที่คว้า 2 แชมป์ในปีแรกที่เล่นใน แอลพีจีเอ ทัวร์ รวมถึงเป็นสวิงสาวไทยคนที่ 4 ตามหลัง โปรเม เอรียา จุฑานุกาล, โปรโม โมรียา จุฑานุกาล และ โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ ที่คว้าแชมป์มากกว่า 1 รายการใน แอลพีจีเอ ทัวร์