ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แม็คอิลรอย ปลื้มทำสถิติคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ 3 สมัย

รอรี่ แม็คอิลรอย สวิงจากไอร์แลนด์เหนือ จารึกประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์ เฟดเอกซ์ คัพ 3 สมัย

รอรี่ แม็คอิลรอย โปรกอล์ฟหนุ่มจากไอร์แลนด์เหนือ จารึกประวัติศาสตร์ให้วงการกอล์ฟอีกครั้งหลังกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่คว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ 3 สมัย ในการแข่งขันรายการ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามอีสต์เลก กอล์ฟ คลับ พร้อมรับเงินรางวัล 18 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 650 ล้านบาท โดยถือเป็นการคัมแบ็คคว้าชัยได้อย่างเหลือเชื่อสำหรับแม็คอิลรอย เมื่อเขาออกสตาร์ตรอบสุดท้ายโดยมีสกอร์ตามหลังผู้นำอย่าง สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ จากสหรัฐอเมริกา ห่างถึง 6 สโตรก และกลับมาปิดฉากฤดูกาลการแข่งขันในศึกพีจีเอทัวร์ได้อย่างสวยหรู

ยอดโปรกอล์ฟอดีตมือหนึ่งของโลกเผยผ่าน Player Blog เล่าย้อนถึงสัปดาห์การแข่งขันเฟดเอ็กซ์คัพเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจ เพราะสามารถทำสถิติคว้าแชมป์รายการนี้แซงหน้า ไทเกอร์ วูดส์ แต่รู้สึกเสียดายแทน สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ ที่ชวดแชมป์หลังจากโชว์ฟอร์มเยี่ยมตลอดฤดูกาล โดยแม็คอิลรอย กล่าวว่า “เป็นวันที่เหลือเชื่อ เป็นสัปดาห์ที่เหลือเชื่อมาก มันเจ๋งมากเลยที่สามารถทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แน่นอนว่าประวัติศาสตร์เฟดเอ็กซ์คัพ อาจไม่ได้มีมายาวนานเหมือนทัวร์นาเมนต์อื่น แต่การที่ผมเดินออกจากสนามแห่งนี้พร้อม 3 แชมป์ เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งและผมก็ภูมิใจมาก มีสิ่งดีๆมากมายที่มาพร้อมกับการคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ ตอนนี้ผมมีถ้วยรางวัล Calamity Jane อยู่ในบ้าน 3 ใบ เมื่อคิดถึงสนามอีสต์เลก กอล์ฟ คลับ และบ็อบบี้ โจนส์ ตำนานผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการกอล์ฟ ประวัติศาสตร์และประเพณีในเกมกีฬากอล์ฟ บ็อบบี้ โจนส์ คือตัวอย่างที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด"

"ผมเคยพูดไว้เมื่อปี 2019 ว่า การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจากที่ผมคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพครั้งที่ 2 และทำสถิติเทียบเท่า ไทเกอร์ วูดส์ ตอนนี้มีผู้ชนะอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งมันเจ๋งมากเลยที่ผมสามารถทำในสิ่งที่แม้แต่ ไทเกอร์ วูดส์ ก็ทำไม่ได้ อย่างน้อยผมก็มีสถิติเหนือกว่าเขาอย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับผม และผมก็มีความสุขมากกับแชมป์ครั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 ผมเอาชนะ บรู๊คส์ เคปก้า มือหนึ่งของโลกในขณะนั้น มาปีนี้ผมก็ล้มมือหนึ่งของโลกอย่าง สก็อตตี้ เชฟเฟลอร์ ทำให้ผมรู้ว่าเกมการเล่นของผมดีพอที่จะเอาชนะผู้เล่นคนไหนก็ได้ในทุกสนาม ผมจำได้ว่าเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ในฐานะมือวางอันดับ 1 เมื่อปี 2012 และ 2014 แต่ไม่ได้แชมป์ อย่างไรก็ตาม ผมมีโอกาสลุ้นแชมป์ในทุกๆปี และตระหนักดีว่าในบางครั้งก็คว้าโอกาสไว้สำเร็จ บางครั้งก็ทำไม่ได้ เพียงแค่สร้างโอกาสให้ตัวเอง สักวันต้องคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เงินรางวัลเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมและเราก็เป็นนักกอล์ฟอาชีพ เราหาเลี้ยงชีพด้วยการเล่นกอล์ฟ นั่นคือส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขัน แต่ในช่วงอาชีพของผม ณ จุดนี้ การคว้าแชมป์และการเดินทาง รวมไปถึงอารมณ์ความรู้สึกและคนที่ผมแข่งขันด้วยมีความหมายมากกว่าเช็คเงินสด"

"ผมต้องให้เครดิตกับ ทอม คิม ด้วยเช่นกัน เพราะเขาออกสตาร์ตด้วยการเสียควอดรูเปิลในการแข่งขันรายการวินด์แฮม แชมเปี้ยนชิพ ที่กรีนส์โบโร่เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับมาคว้าแชมป์ได้ ผมคิดถึงเรื่องนี้ตอนที่ผมเปิดฉากรอบแรกในวันพฤหัสบดีด้วยการเสียทริปเปิลโบกี้ สกอร์เกินอยู่ 4 โอเวอร์พาร์ หลังผ่านไป 2 หลุม และตามผู้นำ 10 สโตรก ดังนั้นการที่ผมสามารถฮึดกลับมาและปิดฉากด้วยตำแหน่งแชมป์ มันเหลือเชื่อมาก ผมภูมิใจในความยืดหยุ่นของผม และวิธีที่ผมจัดการกับทุกสิ่งทุกอย่างตลอดทั้งสัปดาห์ ผมพูดอยู่เสมอในปีนี้ว่า ฤดูกาลนี้คล้ายกับฤดูกาล 2019 ผมเล่นได้ดี ชนะรายการสำคัญแต่ไม่ได้แชมป์เมเจอร์ แต่แฮร์รี่ ไดมอนด์ แคดดี้ของผมบอกกับผมระหว่างการเล่นที่กรีนหลุม 18 ว่า “สิ่งที่คุณทำได้ดีมาตลอดทั้งปี คุณคู่ควรกับการคว้าแชมป์ครั้งนี้"

"บอกตามตรงเลย ผมมีโอกาสไม่มากนักเมื่อออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการมีคะแนนตามหลังผู้นำ 6 สโตรก ผมจึงตั้งเป้าว่าจะลดความห่างให้เหลือ 3 ในช่วง 9 หลุมแรก และมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมสามารถกดดัน สก็ตอตี้ เชฟเฟลอร์ ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ประกอบกับเชฟเฟลอร์ ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าช่วง 9 หลุมหลังจังหวะเกมเปลี่ยนมาฝั่งผม ผมเล่นได้ดีใน 9 หลุม เก็บพัตต์สำคัญในเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะการพัตต์เบอร์ดี้ระยะไกลที่หลุม 15 และที่หลุม 16 แบบมีโชคเล็กน้อย ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นเพื่อคว้าแชมป์ในการแข่งขันกอล์ฟ มีอีกอย่างที่ผมอยากพูดถึง ผมรู้สึกว่า สกอตตี้ควรได้แชมป์ไปครึ่งหนึ่ง เพราะเขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ ผมรู้สึกแย่ที่เบียดแย่งแชมป์ไปจากเขา แต่เขาเป็นคู่แข่งที่ยอดเยี่ยมและน่านับถือ สก็อตตี้คงได้รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของฤดูกาลนี้ไปครองอย่างแน่นอน และน่าจะเหมาะสมที่สุดหากเขาปิดฉากฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมด้วยแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ"

"ผมคิดว่าเขาคู่ควรกับแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพฤดูกาลนี้มากกว่าผมเสียอีก แต่แน่นอนว่าเขามีโอกาสอีกมากมายที่จะคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ เพราะเขาเป็นผู้เล่นและเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม  ผมบอกเขาว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะต่อสู้แย่งแชมป์กัน เป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ประชันฝีเมือกับเขา เวลานี้นับเป็นช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งวุ่นวายสําหรับวงการกอล์ฟอาชีพชาย ผมเลือกที่จะอยู่ทางฝั่งพีจีเอทัวร์และพยายามที่จะปกป้องสิ่งที่ตัวเองรู้สึกว่าเป็นทัวร์ที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ เป็นเวทีที่เหมาะสมกับสิ่งที่ผมต้องการ มีความท้าทายและแตกต่างอย่างชัดเจน ผมเชื่อในเกมกอล์ฟ ผมเชื่อมั่นในทัวร์แห่งนี้ และเชื่อในศักยภาพของนักกอล์ฟในพีจีเอทัวร์ นี่คือทัวร์ทที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการแข่งขันกอล์ฟ และผมก็ไปแข่งมาแล้วทั่วโลก นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสําหรับผม และควรเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจสําหรับพีจีเอทัวร์เช่นกัน"

จนถึงตอนนี้ รอรี่ แม็คอิลรอย คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์มาแล้ว 22 รายการ และเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ครองแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ 3 สมัย แฟนกีฬากอล์ฟสามารถติดตามผลงานของแม็กอิลรอยและยอดโปรกอล์ฟระดับแนวหน้าของโลกในการแข่งขันกอล์ฟพีจีเอทัวร์ ได้ทางกอล์ฟ ชาแนล ไทยแลนด์ และกอล์ฟทีวี พาวเวิร์ด บาย พีจีเอทัวร์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง