 |
| น.ท.หญิงพรพรรณ โปษยนันทน์ (ขวา) หนึ่งในผู้บริหาร ทรัสต์กอล์ฟ พร้อมทีมงาน ร่วมถ่ายภาพกับ โปรแจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (ที่ 2 ซ้าย) ในงานแถลงเซ็นสัญญาเป็น ทรัสต์กอล์ฟ เพลเยอร์ ณ ทรัสต์กอล์ฟ ชั้น 5 อิมพีเรียล เวิล์ด สำโรง เมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 |
ดร.ปริญ สิงหนาท ผู้ก่อตั้ง "ทรัสต์กอล์ฟ" ศูนย์ฝึกซ้อมและพัฒนาศักยภาพการตีกอล์ฟด้วยเทคโนโลยีระดับโลก เล็งเห็นว่ากีฬากอล์ฟเป็นที่เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นวัยไหนก็สามารถตีกอล์ฟได้สนุกด้วยกันได้ ยังสอนให้รู้จักเคารพให้เกียรติผู้อื่นอีกทั้งรู้จักการรอคอย ที่ผ่านมา ทรัสต์กอล์ฟ ได้เข้ามามีส่วนพัฒนา สร้างโอกาสกับนักกอล์ฟอย่างหลากหลายผ่านกิจกรรมต่างๆ
ด้วย "โปรแจ๊ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงวัย 24 ปีจากหัวหิน เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ได้รับการจับตามากที่สุดในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ ทรัสต์กอล์ฟ จึงตัดสินใจเข้ามามีส่วนสนับสนุน แจ๊ส เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันไปสู่เวทีระดับโลกต่อไป
น.ท.หญิงพรพรรณ โปษยนันทน์ หนึ่งในผู้บริหาร ทรัสต์กอล์ฟ เผยว่า "โปรแจ๊ส" คือนักกอล์ฟที่มีผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้เราอยากจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ แจ๊ส ก้าวสู่ระดับโลกต่อไป เพราะนอกจากเป็นผู้เล่นดาวรุ่งกำลังทำผลงานได้ดีสร้างชื่อเสียงกับประเทศไทยแล้ว ยังเป็นนักกอล์ฟมีความเป็นมืออาชีพสูง ขยันตั้งใจจริง และเห็นว่า แจ๊ส คือต้นแบบของการเป็นนักกอล์ฟที่ดี"
โปรแจ๊ส เผยว่า "ทรัสต์กอล์ฟ เป็นสถานที่ครบวงจรมากในการพัฒนากอล์ฟให้ไปสู่อีกระดับ ไม่ว่าจะเป็น โรโบกอล์ฟ, พัตติ้งวิว และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายอย่าง ในการพัฒนาตัวเอง ผมเชื่อว่านักกอล์ฟไทยถ้ามีโอกาสมาใช้บริการที่นี่จะได้อะไรกลับไปแน่นอน สำหรับตัวเองตอนนี้อยู่ในช่วงพัก 2 อาทิตย์ ก่อนที่จะเดินทางไปแข่งในรายการ ดับเบิ้ลยูจีซี ที่เม็กซิโก และอยู่ที่อเมริกายาวจนถึงจบเดอะ มาสเตอร์ส ระหว่างนั้นก็คงได้ลงเล่น 5 รายการ ตอนนี้เป้าหมายคือทำอันดับโลกให้ติดท๊อป 30 ให้เร็วที่สุด และพยายามเก็บแต้มเพื่อให้ได้รับโอกาสลงเล่นใน พีจีเอ ทัวร์ เพราะหากเก็บได้ถึง 280 แต้มจะสามารถลงเล่นในรายการไหนก็ได้ ก็อยากจะทำตรงนั้นให้ได้ก่อน เพื่อหวังจะได้เล่นต่อไป ส่วนเรื่องการแข่งขัน โอลิมปิก ตอนนี้เรียกได้ว่าน่าจะได้รับโอกาสเล่นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็จะพยายามซ้อมเพื่อจะได้ทำผลงานให้เต็มที่"
สำหรับ แจ๊ส เริ่มต้นปี 2019 ด้วยการคว้าแชมป์ เอสเอชบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น ซึ่งเป็นแมตช์โคแซงชั่นระหว่าง เอเชียน ทัวร์ และ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ ซึ่งนั่นเป็นใบเบิกทางให้ แจ๊ส ไปลุยในศึก เจแปน ทัวร์ และยังได้รับตั๋วรับเชิญไปแข่งในศึก ดิ โอเพ่น อีกทั้งยังทำอันดับโลกขยับขึ้นมาติดท๊อป 100 เป็นหนแรกด้วย ส่งผลให้ได้รับเชิญไปแข่ง พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ซึ่งสร้างชื่อเสียง และทำให้แฟนกีฬากอล์ฟทั่วโลกได้รู้จัก โปรแจ๊ส เจนวัฒนานนท์ ผู้เล่นจากประเทศไทยมากขึ้น เมื่อผ่านการตัดตัวสองวันแรกสำเร็จ และจบสี่วันด้วยอันดับ14 ร่วม ก่อนจะกลับมาคว้าชัยชนะอีก 3 รายการใน เอเชียน ทัวร์ เริ่มจากศึก โคลอน โคเรีย โอเพ่น 2019 ที่เกาหลีใต้เดือนมิถุนายน ตามด้วยแชมป์รายการ บีเอ็นไอ อินโดนิเซียน มาสเตอร์ส ประเทศอินโดนีเซีย และ แชมป์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส เดือน ธันวาคม ในแผ่นดินเกิดตัวเองประเทศไทย
นอกจากนั้น แจ๊ส ยังกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 2 ของทัวร์ ที่คว้า 4 แชมป์ในซีซั่นเดียวกัน ต่อจาก โปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์ สวิงรุ่นพี่อดีตมือหนึ่งของทัวร์นี้อีกคน ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในเอเชียน ทัวร์ ซีซั่น 2019 ทำให้ แจ๊ส นั่งแท่นมือ1 ของทัวร์ได้สำเร็จ จากเงินรางวัลรวม สะสมออเดอร์ออฟเมอริท
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น