สิงค์โปร์ โอเพ่น หวนกลับมาจัดแข่ง 20-23 ม.ค.นี้

ศึกกอล์ฟ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น กลับมาจัดแข่งอีกครั้ง โดยจะเป็นแมตช์ปิดซีซั่น 2020-21 ของ เอเชียน ทัวร์ ชิงเงินรางวัลเพิ่มถึง 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐ (40 ล้านบาท) 20-23 ม.ค.นี้ สนาม เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ เซราปง คอร์ส

การแข่งขันกอล์ฟอาชีพ เอเชียน ทัวร์ รายการ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น เตรียมกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้งแล้วในปี 2022 โดยจะเพิ่มเงินรางวัลเป็น 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐ (40 ล้านบาท) โดยการแข่งจะมีขึ้นที่สนาม เซราปง คอร์ส ในสนาม เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 20-23 ม.ค.นี้

ภายหลังการแข่งในปี 2021 จะต้องงดไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 รายการแข่งขันกอล์ฟอาชีพชายที่เป็นหนึ่งใน ไฮไลท์แข่งขันกีฬาของ สิงค์โปร์ ได้หวนกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง โดยจะเป็นรายการสุดท้ายของฤดูกาล 2020-21 โดยจะเป็นแมตช์ โคแซงชั่นกันระหว่าง เอเชียน ทัวร์ และ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ ออแกไนเซชั่น (เจจีทีโอ) อีกทั้งเป็นแมตช์ตัดสินว่าใครจะครองมือ 1 ของ เอเชียน ทัวร์ ด้วย

รอส ตัน ประธานสมาคมกีฬากอล์ฟของ สิงค์โปร์ กล่าวว่า "การแข่งขัน เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น มักจะเป็นหนึ่งในไฮไลท์การแข่งขันกีฬาของ สิงค์โปร์ เสมอมา และผู้จัดเองก็ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ อย่างหนัก ในการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในการจัดการแข่งขันด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุด และเพื่อความปลอดภัยจากการแพร่เชื้อ ซึ่งเราอยากจะขอเชิญชวนให้ทุกคนมาที่ สิงค์โปร์ ให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยตรงนี้ โดยเฉพาะการจัดการแข่งขันในรายการนี้ว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน"

แอนดี้ จอห์นสัน ผู้จัดการทั่วไป และผู้อำนวยการสนาม เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ กล่าวว่า "พวกเรามีความตื่นเต้นที่จะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันนี้ และได้ต้อนรับนักกอล์ฟชั้นนำมากมายที่จะกลับมาแข่งขันที่ เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ อีกครั้ง เพื่อร่วมแข่งขันในศึก เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น นับตั้งแต่เราได้มีการจัดการแข่งขันครั้งหลังสุด สนาม เซราปง มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และอยากจะขอต้อนรับบรรดานักกอล์ฟชั้นนำให้มาสัมผัสกับประสบการณ์ และความสนุกที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน

เมื่อปี 2019 เซราปง ได้รับการโหวตให้เป็นสนามแข่งขันที่ดีที่สุดของ เอเชียน ทัวร์ ซึ่งได้รับการบริหารโดย สปอร์ตไฟฟ์ ที่นอกจากจะได้รับความปลอดภัย และการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ แล้ว ทางทีมงานก็ได้มีการร่วมมือประสานงานกับเจ้าหน้าที่้ท้องถิ่นในการวางมาตรการอย่างเข้มงวด

นักกีฬาทุกคนจะต้องเคารพกติกาในขั้นตอนการทดสอบ และตรวจเช็คทั้งก่อนเดินทาง และยังมีการทดสอบอีกเมื่อมาถึง โดยจะมีการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ และโรงแรม แชงกรี-ลา ราซ่า เซนโตซ่า สิงค์โปร์ เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุด ขณะเดียวกันบุคลากรทุกคนในสถานที่จะได้รับมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกฝ่าย ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้เข้าชมจะได้รับอนุญาต แต่มีการวางแผนการต้อนรับอย่างจำกัด รายละเอียดเพิ่มเติมจะถูกแชร์ในภายหลัง

โช มินน์ ตันท์ ประธานกรรมการบริหาร และ ซีอีโอ ของ เอเชียน ทัวร์ กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การแข่งขัน เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น จะกลับมาอีกครั้งในปี 2022 ทัวร์นาเม้นท์นี้ นับเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันที่ได้รับความสนใจจากนักกอล์ฟมากมาย รวมถึงแฟนๆด้วย และเรามั่นใจว่าฝ่ายจัดการแข่งขัน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้รายการแข่งขันนี้ได้รับการยอมรับ และเพื่อความปลอดภัยของทุกๆคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย"

ไอซาโอะ อาโอกิ ประธานของ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ ออร์แกไนเซชั่น กล่าวว่า "รายการ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น 2020 จะเป็นรายการเปิดซีซั่นที่สำคัญสำหรับศึก เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ ออร์แกไนเซชั่น เรามีความยินดีที่จะเริ่มต้นปีของเราที่ สิงค์โปร์ อีกครั้งในปี 2022 เหมือนเช่นที่เคยเป็น เราพอใจเป็นอย่างยิ่งที่ฝายจัดการแข่งขันที่แสดงความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของบรรดาสมาชิกของเราที่จะเดินทางมา สิงค์โปร์ และทุกคนก็ต่างอยากที่จะเข้ามาร่วมแข่งขัน โดยเฉพาะการได้ปะทะกับนักกอล์ฟชั้นนำระดับโลกหลายคนที่จะเข้ามาร่วมการแข่งขันรายการนี้"

รายการนี้นับเป็นการแข่งขันกอล์ฟเรือธงสำหรับ สิงค์โปร์ มาโดยตลอด และมีบรรดานักกอล์ฟชั้นนำระดับโลกเข้ามาร่วมสร้างสีสัน และประสบความสำเร็จกันมากมาย โดยเริ่มต้นแข่งขันครั้งแรกในปี 1961 ไม่ว่าจะเป็นอดีตมือ 1 ของโลกอย่าง จอร์แดน สปีธ (2016) แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2017, 2018 อย่าง เซร์คิโอ การ์เซีย

ในปี 2020 ซึ่งจัดแข่งขันเป็นครั้งล่าสุดมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 ม.ค. ที่สนามเดียวกันนี้ เป็น แม๊ตต์ คูชาร์ สวิงชาวอเมริกัน เจ้าของเหรียญทองแดงกีฬา โอลิมปิก ที่ ริโอฯ 2016 พลิกแซง จัสติน โรส ยอดสวิงจากอังกฤษ เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิก คว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์