ณัทพงศ์-รัชพล นำร่วม รอบ 2 สวิงไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ กาญจน์

ณัฐพงศ์ นิยมชน (ซ้าย) และ รัชพล จันทวารา ขึ้นนำร่วมหลังจบรอบ 2 ศึกกอล์ฟ สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี แชมเปี้ยนชิพ 2019 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิย.ที่ผ่านมา หลังสกอร์รวมหวดมาเท่ากันที่ 4 อันเดอร์พาร์

ณัทพงศ์ นิยมชน เก็บ 5 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ รวมสองวันขึ้นนำร่วมกับ รัชพล จันทวารา ศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี แชมเปียนชิพ 2019 ณ สนามบลูสตาร์ กอล์ฟ คอร์ส จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

รายการนี้ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนรุ่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ชนะเลิศจะรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท นับเป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่สี่ของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ แข่งขันระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2562 ณ สนามบลูสตาร์ กอล์ฟ คอร์ส ระยะ 6,961 หลา พาร์ 70 จ.กาญจนบุรี

จบรอบสองตัดตัวที่ 6 โอเวอร์พาร์ มีนักกอล์ฟเข้ารอบทั้งสิ้น 63 คน ณัทพงศ์ นิยมชน โปรวัย 30 ปีจาก นครสวรรค์ พัตเตอร์ร้อนหวด 5 เบอร์ดี้ ไม่เสียโบกี้ ซึ่งรวมถึงการพัตต์เบอร์ดี้ยาวระยะสามคันธงลงไปสองหลุมติดที่หลุม 6 และ 7 ขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวันขึ้นนำร่วมกับ รัชพล จันทวารา นักกอล์ฟวัย 31 ปีจากอุบลราชธานี ที่สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 136 นำการแข่งขัน 1 สโตรก

ณัทพงศ์ แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 1 รายการ เมื่อปี 2016 กล่าวว่า "เมื่อวานพัตต์ไม่ลง วันนี้จุดเปลี่ยนก็เป็นหลุมที่ลากไกลลง แต่นอกจากนั้นวันนี้เสิร์ฟดีมาก ส่วนใหญ่อยู่แฟร์เวย พลาดก็แค่ขอบๆ ไม่เสียหาย แต่ว่ามันทำให้ช็อตสองเล่นง่ายขึ้น" ด้าน รัชพล ที่กำลังลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์แรกในชีวิต เผยว่า "วันนี้คือไม่มีแรง เลยดร็อปลงนิด แต่ช่วงนี้เล่นดีแต่วันนี้ไม่มีแรง ตีไปช็อตก็ยังมีคุณภาพแต่มันไม่ใกล้ธงมาก อีกอย่างกรีนยาก ทีช็อตอยู่หมด วันนี้มีสองโบกี้ หนึ่งโบกี้ หนึ่งโบกี้ก็สามพัตต์ เมื่อวานโบกี้หนึ่งก็สามพัตต์ เพราะว่าถ้าออนไกลมันพัตต์ยาก  สองวันนี้ต้องถือว่าพอใจมากครับเพราะถือว่าไม่สบายแล้วตีได้ขนาดนี้ ถือว่าดีมาก"

ตามหลังผู้นำหนึ่งสโตรกที่สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 137 มีอยู่ 4 คนประกอบด้วย พศวีร์ เลิศวิไล ที่ทำเข้ามาอีเวนพาร์ 70, ชัพชัย นิราช แชมป์เก่าที่ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 71, ธนาธิป เผือกเทศ  ที่หวด 2 โอเวอร์พาร์ 72 และ ภาณุวิชญ์ อ่อนจู ผู้นำหลังจบรอบแรก ทว่าในรอบสองตีเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 74

 ชัพชัย นิราช แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการ รวมถึงแชมป์ที่สนามบลูสตาร์ เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาด้วย กล่าวว่า “วันนี้พัตตืไม่ดีเลยพี่ ถามว่าพัตต์ดีไหม ก็พัตต์ดีนะแต่สภาพกรีนมันมากยาก อตีลูกเข้าไปแค่ระยะไดร์ฟเวอร์หนึ่งก็มีสิทธิหลุดได้ แต่ช็อตทุกอย่างถือว่าโอเคนะ แล้วอุปสรรคอีกอย่างของรอบสองนี้คือลม คือคอนดิชั่นสนามที่นี่พอมีลมเข้ามาปุ๊ปจะทำให้ตียากขึ้น เพราะแฟร์เวย์มันจะบีบมากขึ้น”

 ทางด้าน ภาณุวิชญ์ อ่อนจู ที่จบรอบแรกขึ้นนำการแข่งขันด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 63 แต่พอเข้ารอบสองตีเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 74 แต่รวมสองวันยังตามหลังผู้นำเพียงสโตรกเดียวกล่าวว่า “วันนี้ตีเหล็กไม่ดีเลยครับ ต้องไปแก้ไขตลอด เวลาตีไปมันก็ไม่ค่อยได้ทำแต้มเลยครับ วันนี้ฟิลลิงเหล็กมันตีไม่ได้เลยครับ เหมือนแนวสวิงมันลงมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อวานจังหวะมันดีมาก เข้าทุกอย่าง แต่โดยรวมพอใจพอสมควรครับ ไม่ค่อยหงุดหงิดตัวเองเท่าไหร่  เหมือนผมก็ยังเล่นสนุกเต็มที่ของผมเหมือนเดิม”

กลุ่มที่ตามหลังผู้นำ 3 สโตรกที่สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 139 ตามเข้ามาอีก 7 คน ประกอบด้วย อติรุจ วินัยเจริญชัย, เชาวลิต ผลาผล, กฤติน สุนทรนนท์, พล เขมรัตน์, ชโยดม จันทร์จารุพงศ์, เศรษฐี ประคองเวช และ ศรัณย์ ศิริธร ขณะที่กลุ่ม อีเวนพาร์ 140 ยังมีอีก 6 คน รวมถึง สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล โปรวัย 31 ปี แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอ 1 รายการที่สว่าง รีสอร์ท จ.เพชรบุรี เมื่อปี 2012 ที่ในรอบสองหวดเพิ่มมาอีก 2 อันเดอร์พาร์ 68