ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

PING เปิดตัวไดร์เวอร์ G410 กับเทคโนโลยี movable-weight


    เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2019 ที่สำนักงานใหญ่ของ ปิง ณ เมืองฟีนิกซ์: PING ได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่สำหรับปี 2019 ภายใต้ชื่อรุ่น G410 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการปรับแต่งเพื่อให้เกิดความเหมาะมากที่สุดโดยที่นักกอล์ฟสามารถกำหนดเอง ในขณะเดียวกันการเพิ่มความเร็ว, MOI และ เพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟให้นักกอล์ฟด้วย ซึ่งจะเน้นไปที่ไดร์ฟเวอร์ PING G410 Plus และ G410SFT ใหม่ เป็นการผสมผสานวัสดุที่หลากหลายเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว และการปรับแต่งเพื่อให้เกิดความเหมาะสมโดยที่นักกอล์ฟสามารถกำหนดเองได้ที่ร้านกอล์ฟ PING ที่ได้รับอนุญาตทั่วโลกเริ่มในกลางเดือนกุมภาพันธ์



    “ เรายังคงรักษาทั้งการลดความผิดพลาด และระยะทางในไดร์ฟเวอร์ G410 Plus อย่างต่อเนื่องในขณะที่เพิ่มมิติสำหรับการปรับแต่งไดร์ฟเวอร์ ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น” John K. Solheim ประธาน PING กล่าว เทคโนโลยีใหม่ก้อนน้ำหนักที่สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ของเราให้ประโยชน์ของตำแหน่ง CG ที่มีความเหมาะสมรวมถึงการควบคุมทิศทางโดยไม่สูญเสีย MOI หรือความเร็วของลูกซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นมาตลอดกับไดร์ฟเวอร์ที่ไม่ใช่น้ำหนักแบบฟิกตายตัวสำหรับนักกอล์ฟอื่น ๆ G410 Plus ด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนที่ง่ายและมีเหตุผลในการปรับแต่งไดร์ฟเวอร์ของพวกเขาช่วยให้พวกเขาสวิงโดยไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดแฟร์เวย์ มันทำให้พวกเขามีความมั่นใจกับอุปกรณ์ที่อยู่ในมือเหมือนนักกอล์ฟระดับมืออาชีพ นอกจากนี้เรายังได้ขยายส่วนของ CG ภายใน และการปรับลอฟท์ และไลแองเกิ้ล ด้วยด้วยการออกแบบสลีฟใหม่ ที่มีน้ำหนักเบาและสามารถปรับได้มากถึงแปดระดับที่ช่วยปรับมุมการเหินของลูกได้ดีและเหมาะสมยิ่งขึ้น”
Custom CG locations

    ในรุ่น G410 Plus ได้ออกแบบตำแหน่งสำหรับการปรับแต่งให้มีความเหมาะสมกับลักษณะการตีของนักกอล์ฟ ด้วยกันสามตำแหน่ง (Draw, Neutral, Fade) สำหรับก้อนน้ำหนักทังสเตนด้านหลังที่ความหนาแน่นสูงพิเศษช่วยเปลี่ยนตำแหน่งจุดศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง (CG) ที่ตำแหน่ง 1/10”สำหรับการปรับในแต่ละตำแหน่ง จะมีระยะห่างจากจุดกึ่งกลางไปทางซ้ายหรือขวา ประมาณ 10 หลา (ระยะห่าง 20 หลาระหว่าง Draw และ Fade) ด้วยการวางตำแหน่งก้อนน้ำหนักลงบนขอบสุดของหัวไม้ทำให้มีค่าแรงเฉื่อยสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไดร์ฟเวอร์ G400 ทำให้มั่นใจได้ว่านักกอล์ฟจะสนุกไปกับความเร็วเพิ่มขึ้นและตรงกว่าเดิม
“ทีมวิศวกรของเราเผชิญกับความท้าทายของการปรับสมดุลของไดร์ฟเวอร์ ให้มีความเหมาะสมผ่านตำแหน่ง CG ที่ถูกกำหนดโดยไม่ลดทอนคุณลักษณะสำคัญที่ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพ” Solheim กล่าว ในขณะที่ยังคงปรับปรุงเรื่องความเร็วลูกและ MOI เทคโนโลยีการเคลื่อนย้ายน้ำหนักได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงผลกระทบต่อการหมุนและการเหินของลูกแบบที่คุณต้องการ ด้วยองค์ประกอบที่เหมาะสมนี้ช่วยการเคลื่อนที่ของนักกอล์ฟ ซึ่งหมายความว่าพวกมันจะไกลขึ้นและตรงขึ้น และอยู่บนแฟร์เวย์มากกว่าที่เคยเป็นมา

รุ่น G410 SFT (Straight Flight Technology) ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยน้ำหนักทังสเตนความหนาแน่นสูงพิเศษซึ่งถูกวางไว้ในตำแหน่ง ขอบด้านบนของหัวไม้และอีกด้านหนึ่งอยู่บริเวณใกล้กับคอไม้มากขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ สวิงเวทเวทที่เบากว่า (D1) มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางโดยช่วยให้หน้าไม้กลับมาในแนวที่ตรงขณะที่เข้าอิมแพ็ค

“ยังมีกลุ่มนักกอล์ฟจำนวนมากที่เล่นได้ดีขึ้นพร้อมกับไดร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะกับการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยได้รับประโยชน์จากการแก้ไขการเฟดสูงสุด” Solheim กล่าว “เมื่อเราเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี SFT (Straight Flight Technology) ในหลายปีที่ผ่านมาเราต้องการที่แก้ไขด้วยการเพิ่มชิ้นส่วนให้กับไดรเวอร์ ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเพิ่มออฟเซ็ตขนาดใหญ่หรือเพียงแค่ปิดหน้าไม้ G410 SFT จะทำให้คุณมองเห็นหน้าไม้ที่สแควร์ ขณะที่คุณเข้าทำการจรดลูกและคุณจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดเช่นเดียวกันกับ G410 Plus ในขณะเดียวกันก็สร้างความมั่นใจได้ในการลอยของลูกออกไปในทิศทางตรงอย่างต่อเนื่อง”

Dragonfly Technology Inside
การออกแบบ “รอยพับบนกระดอง” ใหม่เพิ่มความแข็งแรง ผสานรวมกับเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรของ Dragonfly ที่อยู่ด้านในโครงสร้างของกระดอง และกระดองที่มีความบาง จะช่วยลดน้ำหนักสำหรับการปรับตำแหน่ง CG และ เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการลดความผิดพลาดสูงขึ้น เมื่อรวมกับเทคโนโลยี Turbulator ที่ดุดันและถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการไหลผ่านของอากาศได้เร็วขึ้น ขนาดของหัวไม้ 455cc ที่มองแล้วดูสะอาดตาทำให้ขณะที่ทำการจรดลูกทำได้อย่างง่ายดาย
Forged, T9S+ Face
หน้าไม้แบบใหม่ผ่านกระบวนการบีบอัดขึ้นรูปที่เป็นเอกลักษณ์และการรักษาความร้อนที่จดสิทธิบัตรของ T9S + ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับการอิมแพ็คที่มากกว่าเดิม หน้าไม้ที่บางและแข็งแรง ทำให้มีความยืดหยุ่นได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มความเร็วของลูกทำให้มีระยะทางที่เพิ่มขึ้น หน้าไม้ที่ผ่านกระบวนการฟอร์จ และรูปทรงภายในของหัวช่วยสร้างความรู้สึกและเสียงที่ทรงพลังของไดร์ฟเวอร์
Trajectory Tuning 2.0
Hosel ที่สามารถปรับได้ และได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาลงและได้รับการจดสิทธิบัตรใหม่เพิ่มความสามารถในการปรับได้มากขึ้นจากเดิมห้าระดับ เป็น แปดระดับ สำหรับการปรับตำแหน่ง ของลอฟท์ ประกอบด้วย (0, + 1⁰, + 1.5⁰, -1⁰, -1.5⁰) และ ในมุมของไลที่แฟลตลงเพิ่มอีกสามระดับประกอบด้วย (0, + 1⁰, -1⁰)
“การเพิ่ม CG ภายในเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักกอล์ฟทุกคนที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพภายใต้เงื่อนไขการหามุมการลอยที่เหมาะสมกับพวกเขารวมถึงการเพิ่มความเร็วลูก ด้วยคำแนะนำของฟิตเตอร์หรือผ่านการทดลองด้วยตัวเอง” Solheim กล่าว
New Counter-Balanced Shaft Technology
ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมวิศวกรของ PING ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของระบบทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาก้าน Alta CB (Counter Balanced) รุ่นต่อไป เพื่อเป็นทางเลือกที่เป็นกรรมสิทธิ์ของไดรเวอร์ G410 ด้วยมุมการเหิรที่สูงขึ้นและมีน้ำหนักเบาของก้าน Alta CB Red 55 นั้นได้รับการออกแบบมาด้วยการถ่วงน้ำหนักเข้าไปส่วนของกริบแปดกรัม ที่สามารถขยับตัวเลื่อน CG Higher และช่วยให้น้ำหนักหัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มการถ่ายโอนพลังงานและโมเมนตัม และก้านประสิทธิภาพสูงของ PING Tour 65 & 75 (สร้างมุมเหินต่ำ, อัตราการสปินส์ต่ำ, ความรู้สึกมั่นคง), Project X EvenFlow Black 75 (มีมุมเหินต่ำ, อัตราการสปินส์ต่ำ) และ Mitsubishi Tensei ™ CK Orange 60 (มุมเหินปานกลาง, อัตราการสปินส์ต่ำ) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับนักกอล์ฟได้เลือกให้ตรงกับมุมเหินของแต่ละคน

G410Plus and SFT Driver Specifications:
G410 Plus loft options: 9⁰, 10.5⁰& 12⁰
G410 SFT (Straight Flight Technology) loft option: 10.5⁰
Head volume: 455 cc
Head weight: 206g (Plus), 204g (SFT)
Swing weight: D3 (Plus), D1 (SFT)
Std. length: 45 3/4" (Alta J CB Red 55); 45 1/4" (PING Tour and aftermarkets)
Loft adjustability: 5 settings: +/-1.5⁰ (0, +1⁰, +1.5⁰, -1⁰, -1.5⁰)
Lie adjustability: Up to 3⁰ Flat (Std : 58.5⁰)
Stock shaft option: PING Alta CB (counter-balanced) Red 55 (SR, R, S, X)
No-Upcharge shaft options: PING Tour 65, 75 (R, S, X), Mitsubishi Tensei CK Orange 60 (R, S, X), Project X Evenflow Black 75 (5.5, 6.0, 6.5)
Stock grip: Golf Pride Tour Velvet 360 in six sizes (Blue -1/16", Red -1/32", Aqua -1/64", White Std., Gold +1/32", Orange +1/16")
PING, G410, เทคโนโลยี Turbulator, Dragonfly and Altaare เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและไม่จดทะเบียนของ Karsten Manufacturing Corporation ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งหมดที่กล่าวถึงเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง