ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โปรโม-โปรเม หยิบแชมป์ ดาว เกรทฯ จัสมิน รองแชมป์ 2 เมียวคว้าที่ 3

โปรเม-เอรียา (ซ้าย) และ โปรโม-โมรียา กับถ้วยแชมป์ ดาว เกรท เลคส์ เบย์ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย

โปรเม-เอรียา และ โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล 2 โปรจากไทย เร่งเครื่องทำ 11 อันเดอร์พาร์ 59 กับการแข่งขันแบบ โฟร์บอลล์ ในรอบสุดท้าย แบบไม่มีเสียโบกี้ พาทีมคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ ดาว เกรท เลคส์ เบย์ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย พาทีมแซงคู่แชมป์เก่าของ โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ สาวไทยที่จับคู่กับ ซิดนี่ย์ แคลนตัน คว้าแชมป์ไป รับเงินรางวัลไปคนละ 279,505 เหรียญสหรัฐ 8.9 ล้านบาท ขณะที่ โปรเมียว ปาจรีย์ อนันต์นฤการ สาวไทยอีกคนที่จับคู่กับ อดิธี อโศก สวิงสาวจากอินเดีย คว้าอันดับ 3 ร่วม

รายการนี้เป็นการแข่งขันประเภททีม 2 คน ชิงเงินรางวัล 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (73.6 ล้านบาท) แข่งขันสนาม มิดแลนด์ คันทรี่ คลับ แบบพาร์ 70 ระยะ 6,256 หลา ที่ มิดแลนด์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐ ระหว่างวันที่ 14-17 กค. 2564 โดยมีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 74 ทีม โดยแข่งขันแบบ โฟร์ซัมส์ (สลับกันตี) ในรอบ 1 และ 3 และเล่นแบบ โฟร์บอลล์ (คนละลูกนับสกอร์ดีที่สุด) ในรอบที่ 2 และ 4 หลังเมื่อปีที่แล้วต้องยกเลิกไปหลังมีปัญหาการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส โควิด-19

จบการแข่งขันในรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งแบบ โฟร์บอลล์ ผลปรากฏว่า โปรโม-โมรียา และ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล 2 พี่น้องสาวชาวไทย ที่ก่อนสตาร์ทสกอร์ตามหลัง 2 สโตรค งัด
ฟอร์มสุดยอดผนึกกำลังช่วยกันทำแต้มให้ทีม โดย โปรเม ทำไป 8 เบอร์ดี้ ขณะที่ โปรโม ทำไป 5 เบอร์ดี้ แบบไม่เสียโบกี้เลย ทำสกอร์ทีมขึ้นมาอีก 11 อันเดอร์พาร์ 59 เท่ากับสกอร์ที่เคยทำได้ในการเล่นรอบ 2 ทำแต้มรวม 24 อันเดอร์พาร์ 256 แซงทุกทีมคว้าแชมป์ในรายการนี้สำเร็จ เฉือนเอาชนะ คู่ของ โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ กับ ซิดนี่ย์ แคลนตัน ที่ทำเพิ่มเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์ 64 และทำสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 259 ถึง 3 สโตรค

นี่นับเป็นการครองแชมป์แรกในรายการนี้ของทั้งคู่ หลังเมื่อปี 2019 คว้าอันดับ 3 ร่วม และเป็นแชมป์ที่ 2 ในปีนี้ของ โปรเม ในซีซั่นนี้ หลังคว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงเป็นแชมป์ที่ 12 ของ โปรเม ใน แอลพีจีเอ ทัวร์ และ แชมป์ที่ 2 ของ โปรโม ในทัวร์ด้วย หลังคว้าแชมป์แรกใน แอลเอ โอเพ่น เมื่อปี 2018

เอรียา กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า "วันนี้เป็นวันที่มีหลากหลายความรู้สึกรวมกัน ก่อนแข่งก็คุยกับ พี่โม ว่าจะพยายามทำเบอร์ดี้ให้ได้ทุกหลุม และจะพยายามสู้ให้เต็มที่ โดยไม่สนว่าโชคมันจะเข้าข้างหรือเปล่า มันทำให้เรียนรู้อะไรมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะกับการจะต้องเล่นกันเป็นทีมเวิร์คเช่นนี้" ด้าน โปรโม กล่าวถึงการแข่งว่า "มันเป็นปีที่ค่อนข้างพิเศษ หลังจาก 2 ปีที่แล้ว ที่เคยเล่นร่วมกัน และเกือบทำสำเร็จ กลับมาเล่นด้วยกันในสัปดาห์นี้กับ เม อีกครั้ง มันรู้สึกมีความมั่นใจลึกๆเกิดขึ้นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะมี เม คอยช่วยเราได้ จึงกลายเป็นเกิดความเชื่อมั่น และมุ่งมั่นใจเกมของตัวเอง พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อช่วยทีมด้วย"

จากการคว้าแชมป์ในรายการนี้ทำให้ปีนี้ โปรเม ทำเงินรางวัลรวมไปแล้วทั้งสิ้น 906,510 เหรียญสหรัฐ (29 ล้านบาท) รั้งอันดับ 6 ในอันดับคะแนนสะสม ขณะที่ โปรโม รั้งอันดับ 15 ด้วยเงินรางวัลสะสม 608,245 เหรียญสหรัฐ (19.4 ล้านบาท)

ด้านอันดับ 2 โปรจัสมิน และ ซิดนี่ย์ รับรองแชมป์ พร้อมเงินรางวัลไปคนละ 138,269 เหรียญสหรัฐ (4.4 ล้านบาท) ขณะที่ "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ สาวไทยอีกคนที่จับคู่กับ อดิธี อโศก สาวอินเดีย ที่นำร่วมจากรอบที่แล้ว แต่รอบนี้หวดเพิ่มเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 ทำสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 261 รับอันดับ 3 ร่วมกับคู่ของ คิม อา-ริม สาวเกาหลี และ เยียลิมี่ โนห์ จากสหรัฐ รับเงินรางวัลไปคนละ 72,909.5 เหรียญสหรัฐ (2.3 ล้านบาท) ขณะที่คู่สาวไทยอีก 1 ทีม "โปรแจน" วิชาณี มีชัย และ "โปรปริญญ์" ปวริศา ยกทวน จบรอบสุดท้ายที่สกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 67 ทำสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 270 คว้าอันดับ 27 ร่วม รับเงินรางวัลคนละ 6,493.5 เหรียญสหรัฐ (207,792 บาท)

รายการต่อไปของศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ จะข้ามฝั่งไปหวดกันที่ทวีปยุโรป กับศึก เมเจอร์ที่ 4 ของปีกับการแข่งขัน เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งโคแซงชั่นร่วมกับศึก เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ระหว่างวันที่ 22-25 ก.ค.นี้ ก่อนจะแข่งขันในรายการ ไอเอสพีเอส ฮันดะ เวิลด์ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และจะเป็นการแข่งขันกีฬา โอลิมปิก ที่จะมีขึ้นต้นเดือน ส.ค.นี้ ที่ประเทศญีุ่่น

......................................................
อันดับคะแนนหลังจบวันสุดท้าย

1.(-24) 256-เอรียา และ โมรียา จุฑานุกาล (ไทย) 67-59-71-59

2.(-21) 259-จัสมิน สุวัณณะปุระ(ไทย) และ ซีดนีย์ แคลนทัน(สหรัฐอเมริกา) 65-65-65-64

3.(-19) 261-คิม อา-ริม(เกาหลีใต้) และ เยลีมี โนห์(สหรัฐอเมริกา) 69-62-66-64,ปาจรีย์ อนันต์นฤการ(ไทย) และอดิติ อาโชก(อินเดีย) 65-63-67-66

5.(-18) 262-อี มินจี(ออสเตรเลีย) และ ยูกะ ซาโสะ (ฟิลิปปินส์) 69-65-66-62

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง