โปรแจ๊ส รับเหมือนฝันหวดโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น

โปรแจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ รู้สึกปลื้มใจกับโอกาสได้ลงหวดในศึก โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมหวังจะสร้างเซอร์ไพร์ซทำเหรียญให้กับประเทศชาติ (เครดิตภาพ: Getty Image & Asian Tour)

โปรแจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ยอมรับว่าปลื้มใจเหมือนฝันกับการได้รับโอกาสเล่นให้ทีมชาติไทยในกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่จะมีขึ้นที่ประเทศ ญี่ปุ่น ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ หวังฟอร์มเข้าฝัก และสร้างเซอร์ไพร์ซคว้าเหรียญโอลิมปิกให้กับประเทศชาติ

แจ๊ส วัย 25 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยฝันเป็นนักว่ายน้ำ ก่อนชะตาจะพลิกผันมาเล่นกอล์ฟจนคว้าโอกาสเล่นให้ทีมชาติในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งการแข่งประเภทชายหวดกันที่สนามคาสุมากาเซกิ คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมนี้ ร่วมกับ กัญจน์ เจริญกุล ที่จะได้รับโอกาสลงแข่งขันเป็นหนแรกเช่นกัน

แจ๊ส กล่าวถึงการแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้ว่า "มีความสุขมากที่คว้าตั๋วไปร่วมแข่งขันในโอลิมปิกสำเร็จ เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างยาวไกล เราตั้งเป้าว่าจะได้ลงแข่งเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ดีใจจริงๆ ที่ทำอันดับผ่านเข้ามาลุ้นเหรียญโอลิมปิก รู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ยังจำได้เมื่อโปรธงชัยและกิรเดชมาเล่าประสบการณ์ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ริโอเดอจาเนโร กิรเดชทำได้ดีจบอันดับ 5 สำหรับโอลิมปิกครั้งนี้เรามีตัวแทนนักกอล์ฟประเทศไทย 4 คน นักกอล์ฟชาย 2 คน และนักกอล์ฟหญิง 2 คน (เอรียา จุฑานุกาล และปภังกร ธวัชธนกิจ) ดังนั้น เรามีโอกาสคว้าเหรียญรางวัล 4 เหรียญให้กับประเทศไทย เราคนใดคนหนึ่งต้องมีสัปดาห์ที่ดีเพื่อลุ้นเหรียญรางวัล กีฬากอล์ฟไม่เหมือนกีฬาประเภทอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แค่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางในสัปดาห์ที่แข่งขันก็มีโอกาส หากผมสามารถคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกมาครองได้ จะเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ”

แจ๊สเผยถึงชีวิตช่วงวัยเด็กว่า "มีคนไม่มากที่รู้ว่าตอนเด็กๆ ผมว่ายน้ำเยอะมาก คุณพ่ออยากให้เป็นนักว่ายน้ำ ตอนที่อายุประมาณ 4-8 ขวบ ผมเคยว่ายน้ำวันละ 2-3 กิโลเมตร แทบไม่น่าเชื่อเลยตอนนั้นชื่นชอบการว่ายน้ำมาก แต่ตอนนี้ผมแทบจะไม่ลงสระน้ำหรือลงไปในน้ำด้วยซ้ำ สมัยเด็กนั่งชมการแข่งขันโอลิมปิกกับคุณพ่อเสมอ โดยเฉพาะ กรีฑาและ ว่ายน้ำ ทำให้ผมคลั่งไคล้ ไมเคิล เฟลป์ส ตำนานนักว่ายน้ำชาวอเมริกัน ที่กลายเป็นไอดอลของตัวเอง"

หลังเข้าสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพ แจ๊ส ต้องใช้เวลา 2-3 ปีในการปรับตัว ก่อนปี 2016 ตัดสินใจบวชตามประเพณีปฏิบัติของชายไทยเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดา หลังจากสึกออกมาโปรแจ๊สคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการแรกสำเร็จในเดือน

กุมภาพันธ์ปี 2017 ในรายการบังคลาเทศ โอเพน และเจ้าตัวได้ให้เครดิตกับการบวชเรียนศึกษาธรรมทำให้จิตใจสงบมีสมาธิดีขึ้น "เมื่อครั้งบวชพระผมสวดมนต์ทุกวันที่วัด และรู้สึกสงบจริงๆ มีสมาธิมากขึ้น ก่อนหน้านี้กอล์ฟเคยเป็นทุกอย่าง แต่ตอนนี้ การได้ลงเล่นในแต่ละทัวร์นาเมนต์ผมก็มีความสุขแล้ว"

ปลายปี 2019 โปรแจ๊ส คว้ามือ 1 ทำเงินรางวัลสูงสุดของ เอเชียน ทัวร์ ก่อนต้องหยุดแข่งยาวเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อกลับมาแข่งขันได้ในปีนี้ โปรแจ๊ส ทำผลงานดีที่สุดคือจบอันดับ 3 ที่เคนยา และอันดับ 11 ร่วมในรายการบริติส มาสเตอร์ ทำให้มั่นใจว่าจะโชว์ฟอร์มได้ดีในการแข่งขันกอล์ฟโอลิมปิกที่โตเกียว