ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไทเทิลลิสต์ เปิดตัวชุดเหล็กเจนฯล่าสุด "ที-ซีรี่ส์"

โฉมหน้าชุดเหล็ก เจนเนอเรชั่น ล่าสุดของ ไทเทิลลิสต์ กับรุ่น ที-ซีรี่ส์ ที่ปฏิวัติวงการพัฒนา เพื่อชุดเหล็กที่ดีที่สุดในโลก และได้รับความนิยมมากที่สุดของโปรชั้นนำในระดับ พีจีเอ ทัวร์

ไทเทิลลิสต์ ผู้นำด้านนวัฒกรรมเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ ภูมิใจนำเสนอชุดเหล็กเจนเนอเรชั่นล่าสุด รุ่น ที-ซีรี่ส์ (T-Series) ที่นำเอาวัสดุชนิดใหม่ และกระบวนการผลิตนวัตกรรมล่าสุด ให้พลัง ความแม่นยำที่เหนือกว่า และให้ความรู้สึกขณะปะทะลูกไม่มีคู่แข่ง ประสิทธิภาพที่แท้จริง ที่นักกอล์ฟต้องการจากชุดเหล็ก

การเปลี่ยนแปลงนี่ถือเป็นการปฏิวัติวงการ การพัฒนาชุดเหล็ก เพื่อการผลิตชุดเหล็กที่ดีที่สุดในโลก และชุดเหล็กของ ไทเทิลลิสต์ ได้รับการยอมรับจากโปรทัวร์ใน พีจีเอ ทัวร์ มากที่สุดติดต่อกันในเจ็ดฤดูกาลล่าสุด  ที-ซีรี่ส์ (T-Series) มีวัสดุชนิดใหม่ กระบวนการผลิตแบบใหม่ และการปรับแต่งที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำ และประสิทธิภาพ รวมถึงให้ความรู้สึกที่ไม่มีใครเทียบได้ ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ ประกอบด้วยสี่รุ่นย่อย ได้แก่ T100, T100•S, T200 และ T300 นักกอล์ฟที่สนใจทำคลับฟิตติ้งในประเทศไทย เริ่มต้นทำฟิตติ้งได้ในเดือนกันยายนนี้ และวางตลาด ต้นเดือนตุลาคมนี้

ยอช ทัลเก้ รองประธานด้านการตลาด ไทเทิลลิสต์ กอล์ฟ คลับ กล่าวว่า "ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ แสดงถึงความก้าวล้ำในการออกแบบ และเทคโนโลยีของเหล็ก Titleist” “เราให้

ความสำคัญในทุกรายละเอียด ทั้งในการออกแบบ วัสดุ และการผลิต ชุดเหล็กรุ่นใหม่เหล่านี้ ทุกรุ่นให้ความแม่นยำ และประสิทธิภาพดีที่สุด ในประเภทเหล็กนั้นๆ พร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงาม สะดุดตา และให้ความรู้สึกที่น่าทึ่ง นักกอล์ฟไม่ได้ต้องการแค่จะซื้อ 'ชุดเหล็กรุ่นใหม่’ พวกเขาต้องการประสิทธิภาพที่ถูกออกแบบเฉพาะ และช่วยให้เล่นได้ดีขึ้น นั่นคือ สิ่งที่เหล็กรุ่นใหม่ของเรามอบให้"

"เหล็ก T-Series ถูกออกแบบ ให้ควบคุมลูกได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เล่นทุกคนที่ต้องการทำคะแนนให้ต่ำลง” Marni Ines Director, Titleist Irons Development, Golf Club R&D” กล่าว “ตั้งแต่ความรู้สึกขณะปะทะลูก ไปจนถึงประสิทธิภาพในการเล่น ทุกองค์ประกอบของชุดเหล็กเหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนักกอล์ฟเล่นได้สม่ำเสมอที่สุด ตั้งแต่ช็อตแรก จนถึงช็อตสุดท้ายในการออกรอบ ไม่ว่าจะเป็น T100, T100•S, T200 หรือ T300 เหล็กทุกตัวได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟเล่นได้เต็มศักยภาพ ให้ประสิทธิภาพที่เห็น รู้สึก และสัมผัสได้อย่างแท้จริง"

.......................................................

T100 | ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี


ฐานด้านล่างแบบใหม่ มาจากคำแนะนำของผู้เล่นในทัวร์: ด้วยการทำงานร่วมกับผู้เล่นชั้นนำของทัวร์ และทีมงานของเว็ดจ์ Vokey Design วิศวกรของ Titleist พัฒนาฐานด้านล่างของชุดเหล็กรุ่นใหม่ ให้ดียิ่งขึ้น โดยออกแบบ มุมกระดอนใหม่ให้มีค่าที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละตัวแหน่ง โดยมีมุมกระดอนต่ำลงที่ด้านโคน และมากขึ้นที่ด้านปลาย ซึ่งทำให้ตีผ่านพื้นได้ดีขึ้น รวมถึงให้ความรู้สึกที่ดียิ่งขึ้น ฐานด้านล่างแบบใหม่ ได้รับการยอมรับ และยืนยันในประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม จากผู้เล่นชั้นนำของโลก หลังจากที่ได้ทดสอบ

ทังสเตนที่ดีขึ้น เพื่อความสมดุลที่ดีขึ้น: เราใช้ ทังสเตนที่มีความหนาแน่นมากขึ้น (D18) และใส่ไว้ที่ด้านโคน และปลายของเหล็ก 3-7 ทำให้การกระจายน้ำหนักมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังใช้กระบวนการประสานเนื้องาน แบบเดียวกันกับที่ใช้ในการสร้างอากาศยาน มาผลิตเหล็กรุ่นนนี้ ทีมวิศวกรของ Titleist สามารถลดรอยเชื่อมที่ไม่จำเป็นออกไป และวางน้ำหนักไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้ตำแหน่งของจุด CG เหมาะสมที่สุด และทำให้เหล็กมีค่า MOI สูง ทั้งที่เป็นเหล็กที่ถูกออกแบบสำหรับ ‘นักกอล์ฟจริงจัง’

การพัฒนาเพื่อความสม่ำเสมอที่สูงขึ้น: หน้าเหล็กของ T100 รุ่นใหม่ มีโครงสร้างแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อทั้งหน้าไม้ จนไปถึงขอบล่างด้านหน้า พร้อมโครงสร้างรองรับที่ด้านหลังของหน้าไม้ ช่องว่างด้านหลังใบเหล็กเป็นแบบสองตำแหน่ง ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในประสิทธิภาพ ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ หน้าเหล็กของเหล็ก 3 ถึงเหล็ก 7 ถูกออกแบบขึ้นใหม่ ช่วยให้สร้างสปินได้สูงยิ่งขึ้น ให้วิถีลูกที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพในการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่เหล็ก 8-W เป็นเหล็กฟอร์จแบบชิ้นเดียว ทำจากเหล็กคาร์บอน 1025

MARNI INES กล่าวว่า: “สิ่งที่ทำให้ชุดเหล็กเหล่านี้ แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง คือ ความแม่นยำ และความรู้สึก ที่นักกอล์ฟจะได้รับ เหล็กเป็นไม้กอล์ฟสำหรับทำคะแนน และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เล่นที่เลือกใช้ T100 ที่จะต้องการตีให้ได้ตามระยะอย่างแม่นยำ และด้วยความสม่ำเสมอมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เรานำเหล็กที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดมาสู่วงการกอล์ฟ และทำให้มันดียิ่งขึ้น โดยการเพิ่มทังสเตนความหนาแน่นสูง ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องยนต์ในการออกแบบเหล็กของเรา ทำให้สามารถวาง CG ในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งให้ความเสถียร และเพิ่มค่า MOI วิธีการออกแบบ T100 รุ่นใหม่ ทำให้เราสร้างเหล็กทรงเบลด แบบที่นักกอล์ฟจริงจังต้องการ ซึ่งสำคัญมาก เพราะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาขณะจรดลูก”

ข้อมูลทางเทคนิคของ T100

ก้านเหล็ก รุ่นสต็อก: Project X LZ 5.5

-เทคโนโลยี Loading Zone: ช่วยให้นักกอล์ฟถ่ายเทพลังงานไปยังลูกกอล์ฟได้ดีขึ้น และให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์

-วิถีลูกต่ำ สปินต่ำ

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC

-เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก ก้านหนักขึ้นเบอร์ละ 2 กรัม ไล่ระดับจากเหล็กยาว

-Regular Flex (93-105 กรัม), วิถีลูกปานกลาง-สูง สปินปานกลาง

-Stiff Flex (95-107 กรัม), วิถีลูกปานกลาง สปินปานกลาง

-กริพ: Golf Pride Tour Velvet 360 สีดำ ลายสีขาว

ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (ก้านเหล็ก): 6,320 บาทต่อชิ้น


T100•S | เหล็กระดับทัวร์ ที่ให้ความเร็วสูงกว่า


สำหรับนักกอล์ฟ ที่ต้องการรูปลักษณ์ และความรู้สึกแบบเดียวกับเหล็กที่ผู้เล่นในทัวร์ชื่นชอบ อีกทั้งยังต้องการตีได้ไกลขึ้น

ชุดเหล็ก T100•S รุ่นใหม่ มีการออกแบบ การผลิต และโครงสร้างแบบเดียวกันกับ ชุดเหล็กที่ผู้เล่นชั้นนำของโลกชื่นชอบใน T100 ให้ความรู้สึกหนักแน่นของเหล็กฟอร์จทั้งชิ้น รูปทางที่ผู้เล่นในทัวร์ชื่นชอบ ฐานด้านล่างที่เล่นได้หลากหลายยิ่งขึ้น และวิถีลูกที่แม่นยำ T100s รุ่นใหม่ มีองศาหน้าไม้ที่ชันกว่า T100 2 องศา และมีการเจาะช่องที่ด้านหลัง ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟ และมุมเหินของลูก ในขณะที่ยังคง ความรู้สึกที่หนักแน่น ขณะปะทะลูก ประสิทธิภาพในการควบคุมที่แม่นยำ และพลังในการหยุดลูก มันคือเหล็กแบบทัวร์ ที่ตีได้ไกลกว่า

T100•S | ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี

รูปทรงแบบทัวร์เหมือนกัน ความเร็วเท่านั้นที่สูงกว่า: เหล็ก T100•S มีรูปทรง และขนาดแบบเดียวกันกับ T100 แต่ถูกออกแบบเฉพาะให้มีองศาหน้าไม้ชันกว่า 2 องศา และไม่ใช่การดัด T100 ให้ช้นขึ้น T100•S มีหน้าไม้แบบฟอร์จทั้งชิ้น และมีโครงสร้างรองรับที่ด้านหลังนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็ว และมุมเหิน T100•S ให้ความรู้สึกที่หนักแน่น ขณะปะทะลูก แบบเดียวกันกับ T100 แตกต่างกันเพียงแค่ ตีได้ไกลกว่า

ทังสเตนที่ดีขึ้น เพื่อความสมดุลที่ดีขึ้น: ด้วยทังสเตนที่มีความหนาแน่นมากขึ้น (D18) และกระบวนการประสานเนื้องานที่ใช้ในงานอากาศยาน ทำให้เหล็ก T100•S มีตำแหน่งของจุด CG ที่แม่นยำ และเหมาะสมที่สุด แบบเดียวกับ T100 และการออกแบบช่องที่ด้านหลัง ช่วยลดน้ำหนักที่ส่วนหลัง ย้ายไปวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้จุด CG ต่ำลง และให้วิถีลูกที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ใบเหล็กยังมีค่า MOI สูง และช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกที่หนักแน่นแบบเหล็กฟอร์จทั้งชิ้น

การพัฒนาเพื่อความสม่ำเสมอที่สูงขึ้น: เช่นเดียวกันกับ T100 หน้าเหล็กของ T100•S รุ่นใหม่ มีโครงสร้างแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อทั้งหน้าไม้ จนไปถึงขอบล่างด้านหน้า พร้อมโครงสร้างรองรับที่ด้านหลังของหน้าไม้ นี่คือความแตกต่าง ที่ให้ผลลัพธ์ที่โดดเด่น และทำให้ชุดเหล็กของ Titleist ให้ความแม่นยำที่แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง ช่องว่างด้านหลังใบเหล็กเป็นแบบสองตำแหน่ง ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในประสิทธิภาพ ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ หน้าเหล็กของเหล็ก 3 ถึงเหล็ก 7 ได้รับการออกแบบใหม่ ช่วยให้สร้างสปินได้สูงยิ่งขึ้น ให้วิถีลูกที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพในการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่เหล็ก 8-W เป็นเหล็กฟอร์จแบบชิ้นเดียว ทำจากเหล็กคาร์บอน 1025

MARNI INES กล่าวว่า: “เอกลักษณ์ของเหล็ก T100•S มาจากการที่เราสร้างชุดเหล็กขึ้นใหม่แบบเดียวกันกับ T100 ให้มีองศาชันขึ้น 2 องศา โดยไม่ได้แค่ดัดให้มันชันขึ้น เหตุผลที่เราทำเช่นนี้ เพราะเราต้องการรักษา คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของฐานด้านล่าง และประสิทธิภาพในการตีผ่านลูกที่ดีที่สุด ซึ่งจะสูญเสียไป ถ้าเรานำเหล็ก T100 ไปดัดให้ชันขึ้น  ที่มากไปกว่านั้น ‘S’ เป็นตัวแทนของคำว่า ‘speed’ ช่องว่างที่ด้านหลังแบบใหม่ ในเหล็กกลาง และเหล็กยาว ช่วยให้นักกอล์ฟตีได้ไกล และแม่นยำขึ้น พร้อมให้วิถีลูกสูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอ และโอกาสในการทำคะแนน มันมีรูปทรง และให้ความรู้สึกแบบ T100 แต่ตีได้ไกลกว่า สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเหล็กแบบทัวร์ และตีไกล”

ข้อมูลทางเทคนิคของ T100•S

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC

-เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก ก้านหนักขึ้นเบอร์ละ 2 กรัม ไล่ระดับจากเหล็กยาว

-Regular Flex (93-105 กรัม), วิถีลูกปานกลาง-สูง สปินปานกลาง

-Stiff Flex (95-107 กรัม), วิถีลูกปานกลาง สปินปานกลาง

-กริพ: Golf Pride Tour Velvet 360 สีดำ ลายสีขาว

ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (ก้านเหล็ก): 6,320 บาทต่อชิ้น


T200 | เหล็กตีไกล สำหรับนักกอล์ฟที่จริงจัง


สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการชุดเหล็กที่ช่วยให้ตีได้ไกลขึ้น โดยไม่ต้องสูญเสียรูปทรงที่สวยความ ให้ความรู้สึกที่นุ่ม และหนักแน่น ของเหล็กฟอร์จ พร้อมวิถีลูก และพลังในการหยุดลูกที่ยอดเยี่ยม

พัฒนาการของเหล็ก T200 แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในของชุดเหล็กตระกูล T-Series สิทธิบัตรที่แตกต่างกันถึง 10 ฉบับ ถูกใช้สำหรับผลิตเหล็ก T200 รุ่นใหม่ ทำให้มันเป็นเหล็กที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Titleist ทีมวิจัยและพัฒนาไม้กอล์ฟ Titleist นำสิ่งที่ดีที่สุดของ T200 รุ่นก่อนมาพัฒนา จากนั้นปรับปรุงเทคโนโลยี Max Impact ให้ดียิ่งขึ้น และถ่วงน้ำหนักด้วยทังสเตน ที่มีความหนาแน่นมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงรูปทรง ให้มีออฟเซ็ทลดลง ขอบด้านบนบางลง และขนาดใบเหล็กที่สั้นลง ผลลัพธ์ที่ได้ คือชุดเหล็กที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว และตีไกลอย่างน่าทึ่ง ทุกองค์ประกอบของโครงสร้าง ที่เกิดจากการผสมผสานวัสดุหลายชนิด ถูกออกแบบมา เพื่อให้สร้างความเร็วได้สูงสุด พร้อมความรู้สึก และประสิทธิภาพในการควบคุมระยะ ที่พิสูจน์แล้วโดยผู้เล่นในทัวร์

T200 | ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี

การออกแบบที่อัดแน่นด้วยพลัง: ทุกองค์ประกอบของโครงสร้างใบเหล็กแบบด้านในกลวง และผสมผสานด้วยวัสดุหลากชนิด ทำให้ T200 รุ่นใหม่ ตีได้ไกล และสม่ำเสมอยิ่งขึ้น เทคโนโลยี Max Impact ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นอีกขั้น (Max Impact 2.0) โดยออกแบบโครงสร้างสำหรับรองรับก้อนโพลีเมอร์ที่ด้านหลัง และใช้ก้อนโพลีเมอร์ความยืดหยุ่นสูงที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทั้งหมดนี้ ช่วยเพิ่มความเร็ว เมื่อตีพลาดกลางหน้าไม้ และทำให้ถ่ายเทพลังงานได้เต็มประสิทธิภาพ จากทั่วทั้งหน้าเหล็กรูปตัว L ที่มีค่า COR สูง และผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ

โครงสร้างแบบผสมผสานวัสดุหลากชนิด: แผ่นปิดด้านหลังที่ถูกออกแบบเฉพาะ โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง ทำให้ปรับแต่งเสียงได้แม่นยำตามต้องการ และช่วยลดน้ำหนัก ซึ่งเหมาะสมกับโครงสร้างที่ทำจากสเตนเลส 17-4 ใบเหล็กที่มีขนาดสั้นลง และออฟเซ็ทน้อยลง (เท่ากันกับ T100) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ขอบด้านบน และฐานด้านล่างบางลง ให้รูปทรง รูปลักษณ์ และความรู้สึกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทัวร์ อีกทั้งยังสร้างความเร็วได้สูงสุด และตีไกลเป็นพิเศษ

ทังสเตนที่ดีกว่า เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: ด้วยทังสเตน D18 ความหนาแน่นสูงขึ้น ที่ถูกใส่ไว้ในเหล็ก 3-7 ทำให้กระจายน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการผลิตด้วยกระบวนการประสานวัสดุ แบบเดียวกันกับที่ใช้ในงานอากาศยาน ช่วยให้วิศวกรของ Titleist วางตำแหน่ง CG ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้นักกอล์ฟได้ประโยชน์สูงสุด จากไม้กอล์ฟทุกชิ้น ทั้งความเร็วที่สูงขึ้น การชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น มุมเหินสูง เมื่อตีด้วยเหล็กยาว และเหล็กกลาง พร้อมความแม่นยำที่สูงขึ้น ในการตีเหล็กสั้น

MARNI INES กล่าวว่า: “นักกอล์ฟจำนวนมาก ต้องการประโยชน์ และความได้เปรียบจาก เทคโนโลยีขั้นสูงในชุดเหล็ก และ T200 ก็เป็นเหล็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี และมีนวัตกรรมมากที่สุดของเรา แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการเห็นมัน เทคโนโลยี 'Max Impact' และอื่นๆ ทั้งหมดนั้น 'อยู่ด้านในของใบเหล็ก' T200 รุ่นใหม่ ซึ่งมีรูปทรง และให้ความรู้สึกแบบเหล็กที่นิยมใช้โดยผู้เล่นในทัวร์ แต่มีคุณสมบัติที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่นให้กับนักกอล์ฟ ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยี Max Impact รวมถึงแผ่นปิดด้านหลังที่ออกแบบเฉพาะ และช่วยในการกระจายน้ำหนัก ทำให้เราสามารถเพิ่มก้อนโพลีเมอร์น้ำหนักเบา และทังสเตนความหนาแน่นสูง ที่หนักกว่า 100 กรัม ลงในใบเหล็ก ได้สำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ค่า MOI ที่สูงมาก ในขณะที่ใบเหล็กยังมีความปราดเปรียว แบบที่นิยมโดยผู้เล่นในทัวร์ ที่ถ่ายทอดพลังงานจากหน้าเหล็กไปที่ลูกกอล์ฟได้สูงยิ่งขึ้น แม้ตีพลาดกลางหน้าไม้ ให้ความแม่นยำที่สูงขึ้น และช่วยให้นักกอล์ฟตีได้ระยะตามที่ต้องการได้อย่างสม่ำเสมอ”

ข้อมูลทางเทคนิคของ T200

ก้านเหล็ก รุ่นสต็อก: Project X LZ 5.5

-เทคโนโลยี Loading Zone: ช่วยให้นักกอล์ฟถ่ายเทพลังงานไปยังลูกกอล์ฟได้ดีขึ้น และให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์

-วิถีลูกต่ำ สปินต่ำ

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC

-เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก ก้านหนักขึ้นเบอร์ละ 2 กรัม ไล่ระดับจากเหล็กยาว

-Regular Flex (93-105 กรัม), วิถีลูกปานกลาง-สูง สปินปานกลาง

-Stiff Flex (95-107 กรัม), วิถีลูกปานกลาง สปินปานกลาง

-กริพ: Golf Pride Tour Velvet 360 สีดำ ลายสีขาว

ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (ก้านเหล็ก): 6,320 บาทต่อชิ้น


T300 | ชุดเหล็กที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่นได้สูงสุด


สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการชุดเหล็กที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้มุมเหินสูง ตีไกล และชดเชยความผิดพลาดได้อย่างยอดเยี่ยม

ชุดเหล็กที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่นได้มากเป็นพิเศษ T300 รุ่นใหม่ ยังคงขับเคลื่อนด้วยพลังจากเทคโนโลยี Max Impact ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้สร้างความเร็วได้สูงสุด จากทั่วทั้งหน้าเหล็กที่มีความหนาแบบไล่ระดับ (VFT) T300 เป็นเหล็กแบบมีช่องว่างด้านหลัง ขนาดปานกลาง ตีไกล และชดเชยความผิดพลาดสูงเป็นพิเศษ พร้อมใส่ทังสเตนเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้จุด CG อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ตีได้มุมเหิน และสปิน ที่เหมาะสม รวมถึงมีค่า MOI สูง  ขนาด และรูปทรงของ T300 ถูกออกแบบมา เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่น ในขณะที่ ใบเหล็กที่เป็นสีโครเมียมแบบใหม่ ให้รูปลักษณ์ระดับพรีเมียม

T300 | ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี

พลังที่ถูกซ่อนที่ด้านหลัง: ภายใต้โลโก้ T300 ที่ด้านหลังใบเหล็ก ตัวสร้างพลังถูกซ่อนอยู่ในนั้น Max Impact 2.0 ที่มีโครงสร้างที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะ ไว้รองรับก้อนโพลีเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงแบบใหม่ ที่ช่วยสร้างความเร็ว และทำให้ตีได้ไกลที่สุด

ทังสเตนที่ดีกว่า เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า: ก้อนน้ำหนักทังสเตนความหนาแน่นสูง (D18) ถูกนำมาใส่ไว้ที่ด้านโคนและปลายของฐานด้านล่าง ในเหล็ก 4-7 เพื่อการกระจายน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ วิศวกรของ Titleist ยังใส่ทังสเตนเพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับ T300 รุ่นก่อน อันเป็นผลมาจากการผลิตด้วยกระบวนการประสานวัสดุ แบบเดียวกันกับที่ใช้ในงานอากาศยาน ซึ่งปกติใช้สำหรับผลิตชุดเหล็กรุ่นที่ผู้เล่นในทัวร์ใช้เท่านั้น ทั้งหมดนี้ รวมกับการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้ T300 รุ่นใหม่ ให้ความรู้สึกหนักแน่น พร้อมมุมเหินที่เหมาะสม ตีไกล และชดเชยความผิดพลาดสูงมาก

บางลง ในตำแหน่งที่เหมาะสม: T300 รุ่นใหม่ มีหน้าเหล็กแบบไล่ระดับความหนา แรงดีดตัวสูง โดยหน้าเหล็ก มีส่วนที่บางกว่า ค่อนมาทางด้านโคนในเหล็กยาว และเหล็กกลาง ให้การดีดตัวที่ดียิ่งขึ้นจากทั่วทั้งหน้าไม้ ประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหน้าเหล็กทั่วไป

JOSH TALGE กล่าวว่า: “T300 เป็นเหล็ก Titleist ที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่นได้สูงสุด เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการชุดเหล็ก ที่ให้มุมเหินสูง ตีไกล ชดเชยความผิดพลาดสูง และต้องการเทคโนโลยีล่าสุด เหล็กรุ่นนี้ มีเทคโนโลยี Max Impact 2.0 ที่มาพร้อมกับรูปทรงที่ปราดเปรียว และสะอาดตาขณะจรดลูก อันเป็นเอกลักษณ์ของ Titleist ทีมออกแบบของเรา ยังคงรักษาออฟเซ็ท รูปทรง และขนาด ที่นักกอล์ฟชื่นชอบ และเพิ่มน้ำหนักทังสเตนขึ้นอีก 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้ตำแหน่งของจุด CG ต่ำลง และอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพที่นักกอล์ฟแสวงหา จากชุดเหล็กที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่นรุ่นนี้”

ข้อมูลทางเทคนิคของ T300

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC

-เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก ก้านหนักขึ้นเบอร์ละ 2 กรัม ไล่ระดับจากเหล็กยาว

-Regular Flex (93-105 กรัม), วิถีลูกปานกลาง-สูง สปินปานกลาง

-Stiff Flex (95-107 กรัม), วิถีลูกปานกลาง สปินปานกลาง

ก้านกราไฟท์รุ่นสต็อก: MCA Tensei Red AM2

-เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก ก้านหนักขึ้นเบอร์ละ 2 กรัม (54-68 กรัม)

-มุมเหินสูง สปินสูง

-กริพ: Golf Pride Tour Velvet 360 สีดำ ลายสีขาว

ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา ก้านเหล็ก: 5,000 บาทต่อชิ้น ก้านกราไฟท์: 5,500 บาท

T SERIES กับการแข่งขันในทัวร์: ผู้เล่นชั้นนำของโลกจำนวนมาก รวมถึง Jordan Spieth, Justin Thomas, Cam Smith, Will Zalatoris, Sungjae Im, Garrick Higgo และ Jessica Korda ใช้เหล็ก T-Series ลงแข่งขันแล้ว ตั้งแต่ชุดเหล็กรุ่นใหม่ เริ่มเปิดตัวในทัวร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา:

• Jordan Spieth ใช้ชุดเหล็ก T100 (4-9) ลงแข่งขันในทันที ที่ the Open Championship รายการแรกที่เขาหลังแข่งขัน หลังจากชุดเหล็กรุ่นใหม่เปิดตัวในทัวร์ เขาทำคะแนนในวันแรกที่ 5 อันเดอร์พาร์ 65 และทำคะแนนต่ำกว่าเจ็ดสิบได้ทั้งสี่วัน ก่อนคว้าอันดับที่สอง ที่รายการนี้

Spieth กล่าว: ฐานด้านล่างของเหล็กรุ่นใหม่ ตีผ่านพื้นได้ดีมาก การเพิ่มมุมกระดอนที่ด้านปลาย และลดมุมกระดอนที่ด้านโคน คล้ายกับการเจียรฐานของเว็ดจ์ ช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอ ในช็อตที่ผมตีพลาด ในการออกรอบ บางครั้งคุณต้องเล่นบนไลที่สภาพพื้นสนามไม่สม่ำเสมอ และต้องพยายามปรับการสวิง เพื่อให้เข้าปะทะลูกได้หนักแน่น หรือในการตีในรัฟ ที่ต้องมีแรงต้านจากหญ้า ฐานด้านล่างของมัน ช่วยให้ตีผ่านไปได้ง่ายๆ นั่นคือประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของเหล็กรุ่นนี้ ที่ผมเห็นได้ชัดจากการใช้งานจริง”

“พูดตามตรงนะ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเล่นเหล็กรุ่นอื่นไม่ได้ ผมชอบพูดติดตลกว่า 'ผมไม่เก่งพอที่จะเล่นเหล็กเบลด’ แต่ในความเป็นจริง ผมคิดว่าผมมีทางเลือกที่ฉลาดกว่า ผมบอกได้เลยว่า จริงๆแล้วผมสามารถเล่นได้ทุกช็อต แบบที่เหล็กเบลดทำได้' แต่ในช็อตที่ตีพลาด ซึ่งผมจะมีช็อตที่พลาดจริงๆ อย่างน้อยสองสามช็อตในการออกรอบทุกครั้ง แม้ว่าจะเป็นวันที่ผมเล่นได้ดี ช็อตที่พลาดก็ยังแครี่ข้ามบังเกอร์ และมีโอกาสทำเบอร์ดี้ในหลุมนั้น แทนที่จะต้องเล่นช็อตแก้ไขจากหลุมทราย เพื่อเซฟพาร์ มันมีความหมายมาก และช่วยสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน”

• Spieth, Justin Thomas, Charley Hoffman, Garrick Higgo, Adam Scott และ Bernd Wiesberger เป็นผู้เล่นที่ใช้เหล็ก T200 ลงแข่งขันที่สนามกอล์ฟ Royal St. George’s

• Jessica Korda เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟกลุ่มแรก ที่ได้ทดลองเหล็ก T-Series รุ่นต้นแบบรุ่นสุดท้าย ที่ Titleist Performance Institute เมื่อต้นปี 2021 เธอใช้เหล็ก T200 (เหล็ก 4) และT100 (เหล็ก 5-9) ลงแข่งขันครั้งแรกที่รายการ LPGA’s Marathon Classic

Jessica Korda กล่าวว่า: “มันให้ความรู้สึกตอบสนองที่ยอดเยี่ยม เหมือนการตีด้วยเหล็กเบลด แต่มันไม่ใช่ ฉันชอบที่มันให้ความรู้สึกที่หนักแน่น ขณะหน้าไม้ปะทะลูก อีกทั้ง วิถีลูกที่ได้ก็ดีมาก นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเหล็กที่ยาวขึ้น”

“ความสม่ำเสมอ คือ สิ่งที่ฉันต้องการ เพราะเวลาที่เข้าจรดลูก และต้องการตีให้ได้ระยะตามที่คิดไว้ ฉันเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าเหล็กรุ่นนี้จะให้ผลงานแบบที่ต้องการ เพียงแค่ต้องสวิงให้ดีเท่านั้น ไม่จำเป็นเลยที่ต้องไปคิดถึงผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง เพียงแค่คิดถึงช็อตที่จะเล่น และตีมันออกไป ฉันไม่ได้เป็นคนที่ชอบเปลี่ยนอุปกรณ์ จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อมีรุ่นใหม่ ที่ดีกว่าของเดิมที่ใช้อยู่อย่างเห็นได้ชัด เหล็กรุ่นนี้ดีมาก มันดีขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วยให้ฉันหยุดลูกบนกรีนได้ดีขึ้น ในเหล็กที่ยาวขึ้น ซึ่งช่วยได้มากในการเล่นหลุมพาร์ห้า มันดีมากจริงๆ”

การฟิตติ้งชุดเหล็ก T-Series: Titleist เชื่อมั่นในการทำฟิตติ้ง เพื่อค้นหาชุดเหล็กที่เหมาะสมที่สุดให้กับนักกอล์ฟ โดยคำนึงถึง ผลลัพธ์หลักสามด้าน ได้แก่ ระยะทางที่ตีได้ ความแม่นยำ และมุมที่ลูกกอล์ฟตกลงบนกรีน เหล็ก T-Series ทุกรุ่น ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในทั้งสามด้าน คลับฟิตเตอร์ผู้เชี่ยวชาญของ Titleist จะช่วยนักกอล์ฟทุกคน ค้นหาเหล็ก T-Series รุ่นที่เหมาะสมที่สุด ที่จะช่วยปลดล็อก และทำให้คุณเล่นได้เต็มศักยภาพ ทั้งตีไกลขึ้น และเข้าใกล้ธงมากขึ้น นักกอล์ฟสามารถจองเวลาทำฟิตติ้งเหล็ก T-Series รุ่นใหม่กับ Titleist เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ โดยจองเวลาได้ที่ www.titleist.in.th/golf-club-fitting หรือไลน์ไอดี @titleistthailand

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง