นายกเอกซ์เสนอตัวทำงานต่อพร้อมพัฒนาสวิงไทย

นายกเอกซ์ เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯ เสนอตัวเป็นนายกอีกสมัย ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันที่ 4 ก.ค.นี้ ที่สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์

นายกเอกซ์ เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา ประกาศเสนอตัวรับหน้าที่นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯต่ออีกสมัย หลังกำลังจะหมดวาระ และทำการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ณ การประชุมสามัญประจำปี 2562 ที่สนาม วอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ จ.นครนายก ชี้พร้อมเดินหน้าสานต่องาน และพร้อมผลักดันให้มีการพัฒนาวงการให้ก้าวไปสู่ระดับสากล

เนื่องจากครบวาระในการทำงาน 4 ปี ทางสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย (สกอท.) เตรียมจัดให้มีการประชุมสามัญประจำปี 2562 โดยวาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้นั่่นก็คือการเลือกตั้งนายกสมาคม ซึ่งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา "นายกเอกซ์" เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมคนปัจจุบัน ประกาศเสนอตัวที่จะเข้ามารับหน้าที่ต่ออีกสมัย พร้อมประกาศจะพาสมาคมกอล์ฟไปสู่ทิศทางใหม่ โดยเล็งเป้าหมายไว้ที่การสร้างนักกอล์ฟให้มีมากขึ้นในประเทศไทย

นายกเอกซ์ เผยว่า "นับเป็นการเวียนมาอีกครั้งกับวาระ 4 ปี ที่จะต้องมีการประชุมเลือกตั้งนายกคนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมางานดังกล่าวเลื่อนมาประชุมกันในวันที่ 4 ก.ค.นี้ เนื่องจากสถานการณ์ ไวรัส โควิด-19 ซึ่งงานในวันนั้นก็จะเริ่มต้นกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า โดยเริ่มจากการชี้แจงงบดุล และพูดคุยถึงการทำงานของสมาคม ก่อนทีจะมีการเลือกตั้ง และช่วงบ่ายก็จะมีกิจกรรมสันทนาการ ก็อยากจะให้สมาชิกของสมาคมทุกคนเข้ามาร่วมงานกัน"

"ที่ผ่านมากับการทำงาน 4 ปี ก็มีเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และผิดหวัง บ้าง แต่ที่สำคัญที่ภูมิใจที่สุดคือวันนี้เรามี 3 ทัวร์ที่แข็งแกร่ง ทั้ง ไทยพีจีเอ, ทีดีที และ แชมเปี้ยนส์ ทัวร์ ในการเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟของเรามีแมตช์การแข่งขัน แม้ว่ามันอาจจะไม่สวยหรูเหมือนที่เคยสัญญากันไว้ก่อนที่จะเข้ามาทำงาน แต่เราก็พยายามปรับปรุงทุกอย่างให้มั่นคง ซึ่งผมเองก็ได้รับประสบการณ์หลายอย่างมากตลอดเวลา 4 ปีที่มาทำหน้าที่นี้"

"อย่างไรก็ดีกับการที่ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสกับประสบการณ์ในทัวร์ที่ประเทศอื่นๆ แล้วมองย้อนกลับมาที่บ้านเรา มันทำให้พบกับคำตอบหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการเจริญเติบโตของวงการกอล์ฟในบ้านเรา ซึ่งผมมองว่านี่ถือเป็นรากฐานที่จะทำให้วงการกอล์ฟของเราเจริญขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่มีแมตช์แข่งขัน หรือเงินรางวัลมากๆ เพราะผมมองว่าทัวร์ในบ้านเราเกิดมาเพื่อเป็นการปูรากฐานให้นักกอล์ฟของเราเดินทางไปแข่งขันยังต่างประเทศ ดังนั้นเราจึงมองไปถึงแมตช์เล็กๆที่จะเป็นการสร้างประสบการณ์ให้นักกอล์ฟหน้าใหม่เหล่านั้นก้าวไปสู่เวทีที่ใหญ่มากขึ้นเป็นสำคัญ"

"หากจะมองถึงเรื่องแมตช์แข่งขัน หรือเงินรางวัล ผมมองว่ามันเหมือนเป็นแผนระยะสั้น ซึ่งเราพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาสิทธิ์ให้นักกอล์ฟไทยของเราได้ลงแข่งขัน ทั้งที่มีบรรดานักกอล์ฟต่างชาติแสดงความสนใจที่จะเข้ามาเล่นในทัวร์เรามากมาย แต่เรามองไปถึงโอกาสของนักกอล์ฟของเรา อีกทั้งเรายังมีทัวร์เอกชนที่ทำงานไปร่วมกันกับเราอย่าง ออลไทยแลนด์กอล์ทัวร์ ด้วย มันจึงทำให้เป็นโอกาสที่ดีของนักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆได้แข่งขัน"

"ผมได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานที่ประเทศเกาหลี ตลาดกอล์ฟของบ้านเขาเติบโตไปไกลมากแล้วหากเทียบกับเรา ซึ่งนั่นเป็นเพราะปริมาณนักกอล์ฟในบ้านเขามีมาก ทำให้ธุรกิจ และอุตสาหกรรมกอล์ฟบ้านเขาจึงเจริญ และเมื่อเทียบกับ ฟิลิปปินส์ และ ไต้หวัน ที่ปัจจุบันเมืองไทยแซงหน้าพวกนั้นไปหมดแล้ว เห็นว่าการสร้างตัวเลขนักกอล์ฟในบ้านเราสำคัญเป็นอันดับแรก และเราเองก็มีโปรแจ็คที่คิดเอาไว้จะสร้างเพื่อพัฒนาวงการต่อในการเป็นรากฐานไว้แล้ว"

"เมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยความด้อยประสบการณ์ของผมที่ไม่เคยรับหน้าที่ตรงนี้มาก่อน แต่ด้วยทีมงานที่ดีทำให้เราผ่านมาตรงถึงจุดนี้ได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเราได้สร้างรากฐานให้สมาคมฯ จนมีการแข่งขันที่แข็งแกร่ง จนเรียกได้ว่าเทียบชั้นกับเหล่านานาประเทศแล้ว สุดท้ายนี้ก็อยากจะให้ทุกคนเข้ามาใช้สิทธิ์ของตัวเองในการเลือกตั้งวันที่ 4 ก.ค.นี้ เพื่อสร้างสรรค์วงการกอล์ฟไทยให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไป"