เส้นทางสู่ "พีจีเอ" ของ เข้มข้น

จาก กิจกรรมของครอบครัว สู่ความรักที่มีให้กับเกมกอล์ฟ และเป้าหมายในชีวิต มาวันนี้ "เข้มข้น" ลิมพะสุต เด็กหนุ่มวัย 24 ปี กำลังสานฝันของตัวเองสู่การเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ และการก้าวข้ามไปสู่เวที พีจีเอ ทัวร์ คือ "เป้าหมาย" ที่ตั้งใจ

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เข้มข้น ลิมพะสุต เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟเยาวชนที่เดินทางมาแข่งขันที่ สหรัฐอเมริกา ครั้งนั้น เขาและคุณพ่อเดินทางมาเพื่อทำการแข่งขันกอล์ฟเยาวชน และมีเป้าหมายในใจเพื่อต่อยอดการเล่นกอล์ฟสู่การเป็นมืออาชีพ แม้ว่าตอนนั้นทุกอย่างยังคงเป็นเพียงภาพในจินตนาการ แต่ทั้ง เข้มข้น และคุณพ่อ ก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนในใจแล้ว ทั้งที่สัมผัสเกมกอล์ฟอย่างจริงๆจังๆเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น ใครจะรู้ว่าเพียงการเดินทางในครั้งนั้น มันจะพาให้ทั้งคู่ต้องจากบ้านจากเมืองไทยนับพันๆไมล์เพื่อมาตามหาฝันในดินแดนอันไกลโพ้น

เข้มข้น รู้จักกับกอล์ฟในวัย 8 ขวบ ตอนนั้นเริ่มต้นจากคุณพ่อที่มีความรักในเกมกอล์ฟ และมักจะออกไปเล่นกอล์ฟเสมอ ก่อนที่จะพาให้ เข้มข้น ได้เริ่มหัดเล่นกอล์ฟ แต่ด้วยความที่กอล์ฟจะต้องใช้เวลาทั้งวัน อีกทั้งครอบครัวก็อยากจะมีกิจกรรมร่วมกันจึงกลายเป็นว่า ทั้งครอบครัวมี กอล์ฟ เป็นศูนย์กลาง และกลายเป็นกิจกรรมภายในบ้านในเวลาต่อมา

เข้มข้น เผยว่า "ทุกอย่างเริ่มต้นจาก คุณพ่อมักจะออกไปเล่นคนเดียว และหายไปเกือบทั้งวัน ซึ่งท่านคิดว่าแทนที่จะเป็นแบบนี้ จึงชวนให้ ผม และคุณแม่เริ่มหัดเล่นเพื่อจะได้ออกไปเล่นด้วยกัน"

แต่สิ่งที่ทำให้ เข้มข้น จริงจังกับเกมกอล์ฟมันก็คือการได้สัมผัสกับการเล่นของบรรดานักกอล์ฟเยาวชนในรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา และได้เห็นเยาวชนที่มีฝีมือหลายคน และรู้สึก "เท่" กับการได้เล่นกอล์ฟ จึงเป็นสาเหตุของการเริ่มต้นออกไปเล่นในระดับ ทัวร์นาเม้นท์ ต่างๆ ซึ่ง เข้มข้น กล่าวต่อว่า "ตอนนั้นผมอายุ 9 ขวบ ผม และคุณพ่อ ออกไปเล่นกอล์ฟในรายการต่างๆ ผนวกกับเรียนหนังสือไปด้วย ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการแบ่งเวลาให้ทั้งการเรียน และเล่นกอล์ฟอย่างยิ่ง"

แม้ว่าในเมืองไทยจะเต็มไปด้วยนักกอล์ฟระดับอาชีพที่มีฝีมือมากมาย แต่การจะก้าวไปสู่ระดับอาชีพได้ มันจะต้องควบคู่ไปทั้ง กอล์ฟ และการศึกษา ซึ่งครอบครัว ลิมพะสุต มองว่าหากอยู่ที่เมืองไทยต่อไป เข้มข้น อาจจะต้องเลือกเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความคิดในการออกไปสู่โลกกว้างจึงบังเกิดขึ้น ประกอบกับ โอกาสมาถึง เข้มข้น และคุณพ่อ ได้มีโอกาสไปแข่งขันที่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับเขา และได้สัมผัสว่า มันมีเส้นทางนี้อยู่ที่นี่

"การเดินทางไกลจึงเริ่มต้นขึ้น"

ห่างจากสนามบินนานาชาติ ลอสแองเจลลิส 90 นาที เข้มข้น และคุณพ่อ ได้เริ่มมาปักหลักที่เมือง โลมา ลินดา ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆของครอบครัวในการเดินทางมาอยู่ และศึกษาต่อที่นี่ เข้มข้น เผยว่าด้วยวัยเพียง 14 ปี มันเป็นกาารตัดสินใจที่ยากลำบากมาก เพราะต้องจากบ้านมาไกล และต้องมาเจอกับสิ่งใหม่ๆที่ยังไม่คุ้นเคยที่ดินแดนสหรัฐ แต่ท้ายที่สุดด้วยความมุ่งมั่น และสนับสนุนจากครอบครัว เขาก็ได้มีโอกาสก้าวสู่เส้นทางของตัวเองตามลำดับ

เริ่มต้นจากการย้ายไปที่ แคลิฟอร์เนีย อย่างเต็มตัว เข้มข้น ได้เจอะเจอกับอะไรใหม่ๆรอบข้าง ไม่ว่าจะเรื่อง โรงเรียน เพื่อน และสังคม ที่ใหญ่ขึ้น และต้องใช้เวลาในปรับตัว แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการเรียนในโรงเรียนนานาชาติที่เมืองไทย แต่เมื่อมาเจอกับเจ้าของภาษาตัวเป็น เข้มข้น ก็จำต้องปรับตัวเองให้ได้ ซึ่งเขาก็ถือว่าทำได้ดี จนมาถึงช่วงเวลาสำคัญในการต้องเลือกมหาวิทยาลัยเพื่อจะทำการศึกษาต่อ ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็เลือกศึกษาที่ "คัล" (CAL) California University of Pennsylvania

คอลลิ่น โมริคาว่า

ที่นั่น เข้มข้น ได้มีโอกาสพบกับ คอลลิ่น โมริคาว่า ว่าที่แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมกอล์ฟในระดับมหาวิทยาลัยกัน ซึ่งทั้งคู่กลายเป็นคู่ซี้กันอย่างรวดเร็ว โดย โมริคาว่า เผยว่าทุกอย่างเริ่มต้นตั้งแต่เขาครองแชมป์ ซันเนฮันน่า อเมเจอร์ เมื่อปี 2016 โดยที่ เข้มข้น รั้งอันดับ 2 ซึ่งเจ้าตัวรับว่า "เราสนิทกันมากๆ มีช่วงหนึ่งเราคุยกันทุกวันเหมือนเป็นพี่น้อง มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่เห็นผู้เล่นในวัยเดียวกัน และรู้จักกันดีเล่นใน คอร์น เฟอร์รี่ ทัวร์ ผมหวังว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นมาจุดนี้ได้ แม้ว่าผมจะมีเพื่อนหลายคนใน พีจีเอ ทัวร์ แต่ก็ไม่ใครที่ผมสนิทมากเท่ากับ เคเค"

ทั้ง เข้มข้น และ โมริคาว่า ต่างเลือกวิชาเอก บริหารธุรกิจ เหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่มักจะปรึกษากันเรื่องการเรียนเสมอ และผลักดันซึ่งกันและกันในการเป็นผู้เล่นของมหาวิทยาลัย และกลายเป็นการแข่งขันกันโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กอล์ฟ หรือการเรียน

โมริคาว่า ที่ทำสถิติผ่านตัดตัว 22 รายการติดต่อกันนับตั้งแต่เทิร์นโปร กล่าวถึงเกมกอล์ฟของ เข้มข้น ว่าเป็นสุดยอดในเรื่องของความ "คงเส้นคงวา" และ "เกมลูกสั้น" ซึ่งก็ยอมรับว่าได้เรียนรู้อะไรมากมายจาก เข้มข้น สมัยที่ยังซ้อมร่วมกันในระดับมหาวิทยาลัย

"มันเป็นวิธีการทำแต้มของเขา โดยเฉพาะเมื่อเจอกับสนามที่ไม่ยาวมาก เขาจะใช้เหล็กสั้นในการตีขึ้นกรีน แต่นอกจากนั้นแล้วเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมากคนหนึ่ง โดยเฉพาะบุคลลิกแบบสบายๆของเขา"

แต่อย่างไรก็ดี เข้มข้น ก็ยอมรับว่า "เราพยายามผลักดันซึ่งกันและกันมาตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย และเราทั้งคู่ต่างพยายามแข่งขันกันทุกเรื่อง คอลลิ่น กำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ใน พีจีเอ ทัวร์ ขณะที่ผมก็กำลังอยู่ใน คอร์น เฟอร์รี่ ทัวร์ ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่ คอลลิ่น อยู่ในตอนนี้"

เข้มข้น เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการได้สิทธิ์เล่นเพียงแค่บางรายการ แต่หลังจากจบที่ 12 ร่วมในรายการ "เอล บอสเก้ เม็กซิโก แชมเปี้ยนชิพ" และหลังจาก 3 เดือนในการกลับมาจาก ไวรัส โควิด-19 ด้วยการคว้าอันดับ 10 ร่วมในศึก คอร์น เฟอร์รี่ ชาลเล้นจ์ ที่ ทีพีซี ซอว์กราสส์ ทำให้ เข้มข้น ได้รับโอกาสลงแข่งในทัวร์นาเม้นท์ที่เหลือทั้งหมด

"ผมดีใจที่ได้กลับมาลงเล่นแบบเต็มที่อีกครั้ง" เข้มข้น กล่าวหลังจากกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งหลังจากการระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ถึงแม้ว่าวันนี้ เข้มข้น ยังเล่นใน คอร์น เฟอร์รี่ ทัวร์ แต่กับโอกาสอีกเพียงก้าวเดียวสู่เวทีกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ที่ซึ่ง คอลลิน โมริคาว่า เพื่อนซี้ของเขากำลังโบกมือชักชวนให้ เข้มข้น ก้าวข้ามมันไปให้ได้ มันไม่ไกลแล้ว

นอกจากนั้นกับความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง กิรเดช อภิบาลรัตน์ ที่เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าสิทธิ์แข่งขันใน พีจีเอ ทัวร์ เต็มซีซั่น ตามมาด้วย "โปรแจ๊ซซ์" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ที่กำลังไต่อันดับเพื่อโอกาสลงเล่นในเวทียิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้เชื่อว่า "ธงชาติไทย" จะยังคงสะบัดไหวบนเวทีกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่นี้ต่อไป