ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไทเทิ่ลลิสต์ เปิดตัวลูกกอล์ฟ โปรวีวัน และ โปรวีวันเอกซ์ ของปี 2021

Titleist ขอแนะนำลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ล่าสุด –ตีไกลขึ้น สปินในการเล่นรอบกรีนสูงขึ้น และนุ่มขึ้น โดยนวัตกรรมใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่แกนในถึงเปลือกนอก สร้างมาตรฐานใหม่ของลูกกอล์ฟประสิทธิภาพสูงสุด

เพิ่มประสิทธิภาพจากทุกส่วนประกอบของลูกกอล์ฟ Titleist Pro V1 และ Pro V1x ถูกสร้างให้ ตีได้ไกลขึ้น ให้สปินในการเล่นรอบกรีน และประสิทธิภาพในการควบคุมลูกสูงขึ้น และให้ความรู้สึกนุ่มยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังให้คุณภาพ และความสม่ำเสมอสูงสุด ที่นักกอล์ฟเชื่อมั่น และมั่นใจกับลูกกอล์ฟ Titleist สำหรับลูกกอล์ฟทุกโหล และทุกลูก

วางตลาดในประเทศไทย วันที่ 28 มกราคมนี้ ลูกกอล์ฟ 2021 Pro V1 และ Pro V1x มีแกนใน เปลือกหุ้มแกนใน และเทคโนโลยีด้านอากาศพลศาสตร์แบบใหม่ รวมถึงรอยบุ๋มแบบใหม่ 388 (Pro V1) และ 348 (Pro V1x) ที่ทำให้ตีได้ไกล และสม่ำเสมอยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ ทำให้ลูกกอล์ฟอันดับ 1 ที่ได้รับความเชื่อมั่น และประสิทธิภาพสูงสุด ดีขึ้นไปอีกขั้น

ประสิทธิภาพของ 2021 PRO V1 & PRO V1x: ตั้งแต่ผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก ไปนักกอล์ฟสมัครเล่นทุกระดับฝีมือ ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ ถูกออกแบบสำหรับนักกอล์ฟ ที่ให้ความสำคัญของประสิทธิภาพ เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ ปี 2021 ทั้งสองรุ่น ตีไกลขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมลูกให้ตกแล้วหยุดในการเล่นรอบกรีน ให้ความรู้สึกนุ่มยิ่งขึ้น และความทนทานสูง ในขณะที่ความแตกต่างของวิถีลูก ความรู้สึก และสปิน ระหว่าง Pro V1 และ Pro V1x ยังคงเป็นเช่นเดิม:

• Pro V1 รุ่นใหม่ ให้ประสิทธิภาพที่ลงตัวที่สุด ทั้งความเร็ว สปิน และความรู้สึก ทำให้เหมาะสมที่สุด สำหรับนักกอล์ฟส่วนใหญ่ Pro V1 ให้วิถีลูกต่ำกว่า Pro V1x, Pro V1 ให้วิถีลูกพุ่งอย่างทรงพลัง พร้อมความรู้สึกนุ่มมาก

• Pro V1x รุ่นใหม่ สร้างความเร็วได้สูง ให้วิถีลูกสูง และให้สปินสูงกว่า Pro V1x ออกแบบสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการวิถีลูกที่สูงขึ้น และสปินที่สูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Pro V1, Pro V1x ให้ความรู้สึกที่แข็งกว่า Pro V1 เล็กน้อย

“นักกอล์ฟที่เลือกใช้ Pro V1 หรือ Pro V1x พวกเขาต้องการประสิทธิภาพที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน”

Jeremy Stone, Vice President, Titleist Golf Ball Marketing กล่าว “ทีมวิจัย และพัฒนา รวมถึงทีมปฏิบัติการของเรา ใช้เวลานานนับปีในการสร้างเทคโนโลยีใหม่ ในทุกส่วนประกอบของลูกกอล์ฟ 2021 Pro V1 และ Pro V1x เราพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟเล่นได้ดีที่สุด และทำคะแนนได้ต่ำลง”

เทคโนโลยีของ 2021 PRO V1 และ PRO V1x: ความก้าวหน้า และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตลูกกอล์ฟแบบหลายชั้นของ Titleist ทำให้เราสามารถออกแบบ และผลิตลูกกอล์ฟได้อย่างแม่นยำ เป็นผลให้ลูกกอล์ฟ มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้าน และให้ความสม่ำเสมอสูงสุด ในการเล่นทุกช็อต:

• แกนในผลิตโดยกระบวนการ 2.0 ZG สูตรใหม่ ช่วยเพิ่มระยะให้ทั้ง Pro V1 ที่มีแกนในแบบชั้นเดียว และแกนในแบบสองชั้นของ Pro V1x

• เปลือกหุ้มแกนในความเร็วสูง และดีดตัวสูง เพิ่มความเร็ว และให้สปินต่ำลงในการเล่นช็อตยาว เปลือกหุ้มแกนในทำจาก ionomer ความเร็วสูง และให้การดีดตัวสูง ที่ถูกพัฒนา และพิสูจน์ให้เห็นแล้วในประสิทธิภาพของลูกกอล์ฟ Pro V1x Left Dash

• เปลือกนอกทำจากยูรีเทน สูตรใหม่ ผลิตด้วยกระบวนการแคส เปลือกนอกที่นุ่มที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Pro V1 หรือ Pro V1x ช่วยเพิ่มสปินในการเล่นรอบกรีน ให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่ดีขึ้น ในการเล่นลูกสั้น

• รอยบุ๋มแบบ Spherically-tiled Tetrahedral ที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ โดย Pro V1 มี 388 รอยบุ๋ม และ Pro V1x มี 348 รอยบุ๋ม รอยบุ๋มถูกออกแบบให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของแต่ละรุ่น ซึ่งช่วยให้นักกอล์ฟตีได้ไกลที่สุด และได้วิถีลูกที่สม่ำเสมอที่สุด Pro V1 ยังคงให้วิถีลูกพุ่งที่ทรงพลัง ในขณะที่ Pro V1x ให้วิถีลูกสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน

การพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์: รอยบุ๋มแบบใหม่ของ 2021 Pro V1 และ Pro V1x เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด ที่เปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2011 รอยบุ๋มแบบใหม่ เกิดจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง และความมุ่งมั่นในการพัฒนาของ Titleist ในการศึกษา และพัฒนาให้วิถีลูกของลูกกอล์ฟดียิ่งขึ้น

ตั้งแต่เปิดตัวลูกกอล์ฟ Pro V1 รุ่นแรก เมื่อ 20 ปีก่อน ทีมวิจัย และพัฒนาของ Titleist ออกแบบ สร้าง และทดสอบ รูปแบบรอยบุ๋มของลูกกอล์ฟ มากกว่า 1,900 แบบ เพื่อศึกษาคุณสมบัติในด้านอากาศพลศาสตร์ ซึ่งรวมถึงกว่า 60 รูปแบบ สำหรับ 2021 Pro V1 ที่มี 388 รอยบุ๋ม และกว่า 30 รูปแบบ สำหรับ Pro V1x ที่มี 348 รอยบุ๋ม

“เมื่อเราค้นพบรูปแบบรอยบุ๋มที่เราต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ เราต้องสร้าง และทดสอบ ความลึก ขนาด รูปทรง และการครอบคลุมพื้นที่ ในแบบต่างๆ จนเรามั่นใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” Mike Madson, Titleist R&D’s Director of Aerodynamics & Research Engineering กล่าว “เราใช้เวลาเป็นปีสำหรับรอยบุ๋มของลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ เราทำงานเพื่อค้นหารูปแบบของรอยบุ๋มแบบใหม่ มาเกือบทศวรรษ นี่เป็นคำมั่นที่เรายึดถือมาตลอด เพื่อสร้างลูกกอล์ฟให้ลอยได้ไกลที่สุด และมีวิถีลูกที่มีประสิทธิภาพที่สุด”

กระบวนการผลิตที่แม่นยำ: เราลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีชั้นสูง และระบบควบคุมคุณภาพที่ดีที่สุด ที่โรงงานผลิตลูกกอล์ฟ Titleist Ball Plants 3 และ 4 ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x ลูกกอล์ฟทุกลูก ผลิตโดยพนักงานของ Titleist เพื่อให้มีมาตรฐานทางการผลิตสูงที่สุด ทำให้เรามั่นใจได้ว่าลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ ให้ประสิทธิภาพสูงสุด และสม่ำเสมอมากที่สุด เท่าที่เคยมีมา สม่ำเสมอสำหรับลูกกอล์ฟทุกลูก และทุกโหล เพื่อให้นักกอล์ฟเล่นได้สม่ำเสมอที่สุด จากทุกช็อต และทุกครั้งที่ออกรอบ

การทดสอบโดยผู้เล่นในทัวร์ [ข้อมูลเพิ่มเติมของการทดสอบโดยผู้เล่นในทัวร์ ตามไฟล์แนบ]: เราเริ่มนำลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ มาให้ผู้เล่นใน PGA Tour ทดสอบในเดือนตุลาคม ปี 2020 นักกอล์ฟชั้นนำจำนวนมาก เปลี่ยนมาใช้ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ ลงแข่งขันแล้ว ประกอบด้วย Justin Thomas (Pro V1x), Tony Finau (Pro V1), Adam Scott (Pro V1x), Scottie Scheffler (Pro V1) และ Cameron Smith ซึ่งเป็นผู้เล่นคนแรกของประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน The Masters ที่ทำคะแนนต่ำกว่า 70ได้ทั้งสี่วัน และเขาใช้ลูกกอล์ฟ Pro V1x รุ่นใหม่ ลงแข่งขัน

“ตอนที่ผมทดสอบลูกกอล์ฟรุ่นนี้ครั้งแรก ผมรู้สึกว่าลูกออกจากหน้าไม้เร็วขึ้น เมื่อตีด้วยไดรเวอร์ มันยอดเยี่ยมมาก” Smith กล่าว “วิถีลูก และความสูง เป็นแบบที่ผมต้องการ แต่สิ่งที่ผมชอบมาที่สุด คือ ประสิทธิภาพในการควบคุมลูก เมื่อตีจากรัฟ และการเล่นลูกสั้นรอบกรีน ผมสามารถควบคุมลูกได้ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช็อตยาก ที่ต้องการให้ลูกตกอย่างนุ่มนวล มันดีขึ้นมากๆ”

การวางตลาด: ลูกกอล์ฟ 2021 Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ วางตลาดในประเทศไทย 28 มกราคมนี้ สำหรับรุ่น สีขาว (หมายเลขบนลูกกอล์ฟ 1-4, 5-8) ในขณะที่ รุ่นสีเหลือง High optic (หมายเลขบนลูกกอล์ฟ 1-4) วางตลาดในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ มีราคาขายทั่วไป (MAP) 1,920 บาท


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิวพอร์ต เปิดลบ 10 นำเดี่ยวสวิง เอดีที ที่อินโดฯ

นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มวัย 26 ปีจากสงขลา ขึ้นนำเดี่ยวที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 จบรอบแรกกอล์ฟ เอดีที ทัวร์ รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 (ADT) นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ สวิงหนุ่มจาก สงขลา วัย 26 ปี เปิดสวยทำ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ขึ้นนำเดี่ยว โดยมี ฟิลิป ลุนเดลล์ นักกอล์ฟชาวสวีดิช ตามหลัง 4 สโตรคที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ แสงชัย แก้วเจริญ, คาลิน โยชิ (อินเดีย) และ จัสติน ควิบาน (ฟิลิปปินส์) รั้งที่ 3 ร่วมสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 กอล์ฟ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที รายการ โอบี กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล พรีเซนเตด บาย เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 เหรียญสหรัฐ (2.31 ล้านบาท) ที่สนาม เซนทูล ไฮแลนด์ส กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,538 หลา ประเทศอินโดนิเซีย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2566

กัญจน์ หวังลุ้นแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สุดสัปดาห์นี้

กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟหนุ่มจากพังงาวัย 31 ปี กัญจน์ เจริญกุล สวิงจากพังงา วัย 31 ปี หวังสร้างผลงานดีในศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมนี้ เพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมประจำฤดูกาลนี้ โดยเตรียมพร้อมลงประชันฝีมือกับบรรดาผู้เล่นชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรีคลับ (แทมไพน์ส คอร์ส) ระยะ 7,535 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท

“นิติธร” พร้อมป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ สัปดาห์นี้

นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์เก่าจากไทย พร้อมลงป้องกันแชมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ สิงค์โปร์ 5-8 ตุลาคมนี้ นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรหนุ่มดาวรุ่งของไทย หวังจารึกชื่อครองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสมัย ในการแข่งขันที่จะเปิดฉากดวลวงสวิงที่ประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของโลกและเหล่าผู้เล่นชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ร่วมชิงชัยคับคั่ ง