ออร์มสบี้ คว้าแชมป์ ฮ่องกง โอเพ่น กัญจน์ โปรไทยดีสุดรั้งที่ 3

โปรกัญจน์ เจริญกุล (ซ้าย) คว้าอันดับ 3 ขณะที่ โปรแจ๊ซซ์ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ซิวอันดับ 4 ศึกกอล์ฟ เอเชียน ทัวร์ รายการ ฮ่องกง โอเพ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ

เวด ออร์มสบี้ สวิงจากแดนจิ้งโจ้โชว์ฟอร์มเด็ดขาดนำตั้งแต่รอบแรกก่อนหยิบแชมป์ ฮ่องกง โอเพ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา และเป็นแชมป์รายการนี้สมัยที่ 2 ต่อจากปี 2017 ขณะที่ กัญจน์ เจริญกุล เป็นโปรไทยที่ผลงานดีสุดด้วยการซิวอันดับ 3 ขณะที่ โปรแจ๊ซซ์ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ คว้าอันดับ 4

รายการนี้เป็นแมตช์เปิดฤดูกาลแข่งขันปี 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราวๆ 30 ล้านบาท) แข่งขันระหว่างวันที่ 9-12 ม.ค.นี้ ณ สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 70 ระยะ 6,710 หลา หลังจบการแข่งขันรอบสุดท้ายผลปรากฏว่า เวด ออร์มสบี้ สวิงวัย 39 ปีจาก ออสเตรเลีย โชว์ฟอร์มฮอตอย่างต่อเนื่องหลังขึ้นนำมาตั้งแต่รอบแรก มารอบนี้ทำสกอร์เพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 จากผลงาน 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ ทำสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 263 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองพร้อมรับเงินรางวัล 180,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.4 ล้านบาท

แชมป์รายการนี้นับเป็นการครองแชมป์ เอเชียน ทัวร์ รายการที่ 3 ของ ออร์มสบี้ และเป็นแชมป์หนที่ 2 ในศึก ฮ่องกง โอเพ่น หลังจากคว้าแชมป์ไปเมื่อปี 2017 ซึ่งในรายการนั้นเป็นแมตช์โคแซงชั่นกับ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ด้วย โดยที่อันดับ 2 เป็นของ แชน ลอว์รี่ สวิงมืออันดับ 19 ของโลกจาก ไอร์แลนด์ ที่ทำสกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 267 รับเงินรางวัลไป 110,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3.3 ล้านบาท

ด้านอันดับ 3 เป็นของ กัญจน์ เจริญกุล สวิงหนุ่มจากพังงาที่รอบนี้หวดเพิ่มอีก 1 อันเดอร์พาร์ 69 ทำสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 268 รับเงินรางวัลไป 63,000 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 1.89 ล้านบาท ขณะที่ โปรแจ๊ซซ์ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงมือ 1 เอเชียน ทัวร์ จากหัวหิน รอบนี้หวดเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 68 ทำสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 269 คว้าอันดับ 4 รับเงินรางวัลไป 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 1.5 ล้านบาท

กัญจน์ เผยหลังจบการแข่งขันว่า "วันนี้เริ่มได้ดี แต่ก็มีติดขัดบ้างในช่วงต้น เพิ่งจะมาเหล็กดีในช่วงหลัง แค่พัตต์ไม่ลง คือไม่มีเบอร์ดี้โมเมนตั่มมันก็เลยเปลี่ยน แทนที่จะกดดันผู้นำกลายเป็นกดดันตัวเอง แต่โดยรวมการคว้าอันดับ 3 ถือว่าน่าพอใจมาก ก็อยากจะรักษามาตราฐานของตัวเองแบบนี้ต่อๆไป อีกอย่างก็ถือว่ายังไม่ค่อยชินกับการต้องออกในก๊วนสุดท้าย บอกตรงว่าเล่นไม่อยู่ในเกมของตัวเอง และที่บอกว่าจะดูจากเกมของคู่แข่งถือเป็นความคิดที่ผิดพลาด ถ้าหากเล่นในเกมของตัวเองผลงานอาจจะดีกว่านี้ เพราะ 3 วันที่ผ่านมาก็เล่นได้อยู่แล้ว ก็มีอาการเหนื่อย และตึงขาเล็กน้อย ซึ่งคงจะกลับไปเวิร์คนิดหน่อย ก่อนที่สัปดาห์หน้าจะไปแข่งต่อที่ สิงค์โปร์ ต่อไป"

ขณะที่ โปรแจ๊ซซ์ เผยหลังจบการแข่งขันว่า "อาจจะไม่ดีเท่าเมื่อวาน แต่จบอันดับ 4 ถือว่าน่าพอใจ พัตต์ยังไม่ค่อยลงเท่าไร อีกอย่างผู้นำเล่นได้ดีมาก ก็เลยพยายามรักษาผลงานของตัวเองไว้ก่อน แต่ก็พลาดพัตต์เยอะไปนิดหนึ่ง อีกอย่างสนามนี้ไม่ค่อยเข้าทางตัวเองอยู่แล้ว ถือว่าเรียนรู้อะไรหลายอย่างมาก ที่นี่ชอตไดร์ฟเป็นชอตที่ยาก เพราะสนามเป็นด็อคเลคเยอะ เพราะต้นไม้เยอะ รายการต่อไปจะไปป้องกันแชมป์ สิงค์โปร์ โอเพ่น ที่ เซนโตซ่า ซึ่งถือเป็นสนามที่เข้าทางและชอบ ก็จะพยายามทำผลงานให้เต็มที่"

ด้านสวิงไทยรายอื่นๆ สดมภ์ แก้วกาญจนา หวดรวม 8 อันเดอร์พาร์ 272 รั้งอันดับ 7 ร่วม ขณะที่ พรหม มีสวัสดิ์ จบที่สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 274 รั้งอันดับ 16 ร่วม โปรเพชร พชร คงวัดใหม่ หวดรวม 5 อันเดอร์พาร์ 275 รั้งอันดับ 22 ร่วม แดนไท บุญมา และ ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต หวดรวม 3 อันเดอร์พาร์ 277 รั้งอันดับ 30 ร่วม

รายการต่อไปของศึกกอล์ฟ เอเชียน ทัวร์ จะเป็นการแข่งขันรายการ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 16-19 ม.ค.นี้ ณ สนามกอล์ฟ เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ ประเทศสิงค์โปร์ต่อไป