ยูโรเปี้ยน ทัวร์-อาร์แอนด์เอ หนุน แอลพีจีเอ จับมือ แอลอีที

ไมเคิล วาน (ซ้าย) ผู้บริหาร แอลพีจีเอ ทัวร์ และ มาร์ธา ฟิกัวราส-ด๊อตติ บอร์ดบริหารของ แอลอีที จับมือร่วมกันในระหว่างการประชุมประจำปีของ แอลอีที เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

เดอะ อาร์แอนด์เอ องค์กรกำกับดูแลกีฬากอล์ฟระหว่างประเทศ และ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เห็นพ้องต้องกันที่จะให้การสนับสนุนการจับมือกันของ 2 ทัวร์กอล์ฟอาชีพหญิงอย่าง แอลพีจีเอ ทัวร์ และ แอลอีที (เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์) เพื่อตั้งเป้าหมายในการเปิดโอกาสให้กับนักกอล์ฟสตรีได้มีเงินรางวัลเพิ่มขึ้น และการได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่มากขึ้น


ระหว่างเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ทัวร์ได้มีการพูดคุยถึงความร่วมมือกัน ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมของ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ในระหว่างประชุมสามัญประจำปีของบรรดาสมาชิกที่ประเทศ สเปน

การร่วมมือกันมีขึ้นในทันทีโดยสมาชิกของ แอลอีที ซึ่งทำให้มีการเพิ่มรายการแข่งขันในทัวร์มากขึ้นในการเข้ามาร่วมมือกับ แอลพีจีเอ โดยเงินรางวัลจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วมีรวมกันราวๆ 55 ล้านปอนด์ และการร่วมมือกันของทั้ง แอลพีจีเอ และ แอลอีที จะทำให้โปรแกรมการแข่งขันของ แอลอีที มีมากขึ้น

มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของ อาร์แอนด์เอ

ด้วยความมุ่งมั่นของ อาร์แอนด์เอ และ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ต่างก็เห็นชอบ และพร้อมสนับสนุนการจับมือร่วมกันของทั้ง 2 ทัวร์จากความเห็นของ บอร์ดบริหาร โดย มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของ อาร์แอนด์เอ เผยว่า "การมีโครงสร้างที่แข็งแรง และมั่นคง จะทำให้ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ จะมีความคงเส้นคงวามากขึ้น และนั่นก็คือเป้าหมายของ อาร์แอนด์เอ วีเมนส์ ที่มีในกฎบัตรกอล์ฟ (กอล์ฟ ชาร์เตอร์) เราสนับสนุนด้วยกับมุมมองที่ แอลพีจีเอ และ แอลอีที ต้องการสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงมีโอกาสสานฝันของตัวเองในการเล่นกอล์ฟที่ยุโรป และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟรุ่นต่อๆไปด้วย"

 คีธ เพลเลย์ ประธานบริหารของ ยูโรเปี้ยน ทัวร์

เมื่อปีที่แล้วศึก แอลอีมี มีรายการแข่งขัน 20 รายการใน 13 ประเทศ 8 รายการจัดขึ้นที่ยุโรปซึ่งรวมถึง 2 รายการเมเจอร์นั่นคือ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ และ เอไอจี วีเมนส์ บริติช โอเพ่น โดย คีธ เพลเลย์ ประธานบริหารของ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เผยว่า "มองไปที่โปรแกรมการแข่งขันของเราในปี 2020 เรามีรายการใหม่ และน่าสนใจกับการร่วมกันจัดกับ แอลอีที ที่ สวีเดน และต้องการขยายโอกาสในการร่วมมือกันในตลาดกอล์ฟของเรา กอล์ฟอาชีพสตรี ถือเป็นการสร้างแรงผลักดันใหม่ และสร้างฐานแฟนขึ้นใหม่ ซึ่งทั้งหมดมันช่วยพัฒนาการแข่งขันของเรา และการสร้างรากฐานที่แข็งแรงในกอล์ฟอาชีพสตรีมันถือเป็นการร่วมมือกันครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น"

ตำแหน่ง เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต จะใช้ชื่อใหม่ว่า "เรซ ทู คอสต้า เดล โซล" และจากในปี 2020 จะมีเงินรางวัลโบนัสอีก 250,000 ยูโร โดยนักกอล์ฟที่ทำเงินสูงสุดจะได้รับเงินโบนัสเพิ่มอีก 125,000 ยูโร ด้วย ซึ่ง มาร์ธา ฟิกัวราส-ด๊อตติ บอร์ดบริหารของ แอลอีที เผยว่า "การได้ แอลพีจีเอ, อาร์แอนด์เอ และ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ มาร่วมมือด้วย มันทำให้เรามองเห็นความสำเร็จในอีกไม่ไกล ขณะที่ ไมเคิล วาน ประธานบริหาร แอลพีจีเอ ทัวร์ เผยว่า "มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นกับการมีส่วมร่วมกันหลายๆส่วนที่จะทำให้เกมกอล์ฟมันน่าตื่นเต้นขึ้น เราก็พร้อมช่วยเหลือให้กอล์ฟอาชีพสตรีในยุโรปแข็งแกร่งมากขึ้น"